นายคริษฐ์ กล่าวด้วยว่า จากการออก อีบุ๊ค นิตยสาร เมดฮับ นิวส์ ควบคู่กันไปกับ เว็บไซต์ medhubnews.com อันเนื่องมาจากสังคมไทยที่ยังอยู่ในระหว่างเทคโนโลยีแบบใหม่ และ เก่า ผสมกัน "ลูกค้าบางราย เขาเข้าใจเรานะ แค่เขาตัดคลิปปิ้งข่าวจากเว็บไซต์ก็เพียงพอแล้ว แต่หน่วยงานราชการบางแห่งยังต้องส่งเป็นเอกสาร เป็นคลิปปิ้งข่าวที่เป็นหนังสือพิมพ์ เราจึงต้องออกอีบุ๊คไปด้วย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ตอนนี้เราได้ยอดคนอ่านสองทาง ทั้งจากอีบุ๊ค และ เว็บไซต์" ส่วน ความเคลื่อนไหวของสื่อไทยในช่วงใกล้จะสิ้นปี 2562 เรามองว่าสื่อเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ยังคงเป็นที่ต้องการของสังคมอยู่ ทุกวันนี้เราอ่านข่าวจากเว็บไซต์กันทั้งนั้น และ Google Analytics ก็บอกกับเราว่ายอดคนอื่นข่าวของเรามาจากออแกนิคเสริ์ช หรือ การค้นหาแล้วพบข่าวของเรา ไม่ใช่มาจากโซเชี่ยลมีเดีย เช่น บางวันยอดสูงๆ เจ็ดหมื่นคน มาจากการเสริ์ช ห้าหมื่นคน ที่เหลือ เป็นไดเรค และ โซเชียล ซึ่งโซเชี่ยลเราก็แปลกใจมาก ตรงที่เพจเราคนติดตามหมื่นกว่าคน แต่ยอดการมองเห็นต่ำมาก ทำให้คนเข้ามาที่เพจน้อย จนส่งผลให้คนที่เข้าเว็บไซต์ที่มาจากเพจน้อยมาก รวมทั้ง ช่องทางออนไลน์อย่าง แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คและ อินสตาแกรม จาศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลพบว่าไทยเริ่มอิ่มตัวแล้ว เราจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพจเท่าไรนัก แต่ยังคงมีไว้เพื่อเป็นหน้าบ้านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เราพบว่ายอดคนอ่านมาจาก ทวิตเตอร์ เพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว ทั้งๆ ที่มีผู้ติดตามไม่เท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะทวิตเตอร์ใช้แฮทแท็ก เป็นการสร้างกลุ่มคนอื่น ดังนั้นยอดคนติดตามจึงไม่สำคัญเท่ากับแฮทแท็ก ทวิตเตอร์ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยอดผู้ใช้งานทะยานขึ้นอย่างมาก ทำให้ยอดคนอ่านข่าวของเราก็มากตาไปด้วย ขึ้นอยู่กับเทรนด์ในแต่ละวันว่ามีอะไรน่าสนใจ สรุปแล้ว การออก อีบุ๊ค นิตยสาร เมดฮับ นิวส์ ควบคู่กันไปกับ เว็บไซต์ medhubnews.com เป็นการสร้างฐานคนอ่านข่าวออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งภาครัฐ เอกชน ซึ่งในอนาคตเราก็จะปรับตัวไปพร้อมๆ กับเทรนด์ใหม่ๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เราก็ไม่หยุดนิ่งเช่นกันครับ"