งานมอบรางวัลครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานเปิดงานและเป็นผู้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ โดยมีผู้บริหาร นักธุรกิจ และตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ เดินทางมาร่วมรับรางวัลกว่า 300 ราย จาก 7 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในส่วนของประเทศไทยเองก็มีทั้งบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางธุรกิจ และแบรนด์ดังอีกกว่า 30 แบรนด์ที่ได้เข้าชิงรางวัลหลากหลายสาขาในปีนี้
การมอบรางวัลในครั้งมีทั้งสิ้น 6 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลสุดยอดแบรนด์ผู้ทรงอิทธิพล (Influential Brands Awards) รางวัลแบรนด์ที่โดดเด่นประจำปี (Outstanding Brands Awards) รางวัลสุดยอดผู้นำ (Top CEO Awards) รางวัลสตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี (Influential Women Awards) และในปีนี้มีรางวัลเพิ่มขึ้นอีก 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้นำยอดเยี่ยม (Outstanding Leaders Awards) และรางวัลสุดยอดนายจ้างแห่งปี (Top Employer Brands Awards)
นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด เผยว่า "แบรนด์ที่ได้รับรางวัลและจัดว่าทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุดแห่งปี 2562 "Influential Brands Awards" นั้นได้รับการโหวตจากผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Y คือ ผู้มีอายุตั้งแต่ 25-35 ปี ซึ่งทั่วโลกยกให้เป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยจับจ่ายใช้สอย มีความคิดและทรงอิทธิพลต่อแบรนด์สินค้ามากที่สุด
ดังนั้นแบรนด์ที่ได้รับเลือกครั้งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นที่ชื่นชอบและมีอิทธิพลสูงสุดต่อประชากรกลุ่มนี้ ส่วนรางวัล Outstanding Brands Awards นั้น เป็นรางวัลที่พิจารณามอบให้กับธุรกิจที่มีผลประกอบการโดดเด่นติดต่อกันต่อเนื่องตลอดสองปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ B2B หรือ B2C ก็ตาม สำหรับรางวัลใหม่ที่เพิ่มมา 2 รางวัลในปีนี้ คือรางวัล สุดยอดนายจ้างแห่งปี หรือ Top Employer Brand Awards ซึ่งเป็นรางวัลสำคัญมากที่สุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่ทำให้พนักงานพึงพอใจมากที่สุด และต้องการเข้ามาร่วมสร้างธุรกิจให้บริษัทมีการเติบโตมากที่สุด และรางวัลผู้นำยอดเยี่ยม (Outstanding Leaders Awards) ซึ่งเป็นรางวัลประเภทบุคคล
สำหรับประเทศไทยในปีนี้ มีผู้ได้รับการคัดเลือกให้ได้รางวัลสตรีผู้ทรงอิทธิพลต่อสังคมแห่งปี (Influential Women) 2 ท่าน ได้แก่ นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือที่รู้จักกันดีในนาม "มาดามแป้ง" ผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และ นางอาภาภรณ์ โกศลกุล คอลัมนิสต์เจ้าของนามปากกา "โสมชบา" แห่งไทยรัฐ และรางวัลผู้นำยอดเยี่ยม (Outstanding Leaders) อีก 2 ท่าน ได้แก่ นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ นักการตลาดสาวผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ Finn Mobile และเจ้าพ่อเพชร นายสุริยน ศรีอรทัยกุล จาก Beauty Gems ซึ่งได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจเพื่อตอบรับต่อโลกยุค Digital Disruption ได้อย่างภาคภูมิ
"รางวัลต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นรางวัลคุณภาพสูงสุดสำหรับองค์กรธุรกิจและผู้บริหาร เพราะเป็นการการันตีคุณภาพจากองค์กรภายนอกที่มีความเป็นกลาง และมีเกณฑ์การตัดสินที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นอย่างมาก และประเทศไทยเองก็มีทั้งนักธุรกิจและองค์กรที่โดดเด่นเข้าชิงรางวัลในหลายประเภท โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรุ่นใหม่และธุรกิจสตาร์ทอัพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้แบรนด์ต่างๆ ของไทยเห็นความสำคัญ และพัฒนามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับโลก โดยมีรางวัลคุณภาพนี้เป็นเครื่องหมายการรันตีคุณภาพในปีต่อๆ ไป" นางวรรณี กล่าวเสริม
มร. จอร์จ โรดิกัส กรรมการผู้จัดการ อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "เราจะสังเกตเห็นได้ว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่มีรากฐานแข็งแกร่งและเป็นผู้เล่นใหญ่ในตลาดของตน จึงมีความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่มีความสนใจเรื่องจริยธรรมการทำงานขององค์กรธุรกิจมากขึ้น ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีตัวตนทางโซเชียลมีเดียที่ชัดเจน จึงสามารถสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่บริษัทที่ได้รับรางวัลในปีนี้ล้วนเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในวงกว้าง ในการนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับทั้งบุคคลและแบรนด์ที่ได้รับรางวัลทุกท่านด้วยครับ"
งานประกาศรางวัล "2019 Asia's CEO Summit & Award Ceremony" ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เห็นบรรดาผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตลอดจนผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมต่างๆ จากทั่วทั้งเอเชียมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก งานนี้จึงไม่ใช่เพียงพิธีมอบรางวัลและเฉลิมฉลองความสำเร็จของแต่ละแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ให้เหล่านักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์ และองค์กรที่มีชื่อเสียงจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย ได้มาพบปะพูดคุยทำความรู้จักกัน ถือเป็นการเปิดโอกาสและเป็นช่องทางสนับสนุนให้เกิดการสร้างเครือข่ายในระดับบุคคล และความร่วมมือกันระหว่างองค์กร เพื่อต่อยอดแบรนด์เอเชียสู่เวทีโลกต่อไป