36 ปี บาฟส์กรุ๊ป ชูกลยุทธ์เสริมฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง พร้อมรุกธุรกิจใหม่ ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการพลังงานชั้นนำระดับภูมิภาค

พฤหัส ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๕:๑๒
กลุ่มบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ บาฟส์กรุ๊ป ฉลองครบรอบ 36 ปี เปิดแนวทางการดำเนินธุรกิจ วางกลยุทธ์มุ่งสร้างความเติบโต โดยรักษาฐานธุรกิจหลักให้มั่นคงและเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน พร้อมแสวงหาความร่วมมือในด้านการลงทุนในโครงการใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ ผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ เปิดเผยว่า บาฟส์เกิดขึ้นจากอุดมการณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย รวมถึงสร้างมูลค่าทางสังคมและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการขนส่งน้ำมันโดยรถบรรทุก ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน บาฟส์มีการดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งมาตลอดระยะเวลา 36 ปี ในการเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่รวดเร็ว ตรงต่อเวลา มีความปลอดภัยสูงสุด ได้มาตรฐานสากล และใส่ใจสิ่งแวดล้อม จนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันและสายการบินจากทั่วโลก

"ในฐานะผู้ให้บริการน้ำมันอากาศยานอย่างครบวงจร บาฟส์ให้บริการกับสายการบินกว่า 800 เที่ยวบินต่อวันในท่าอากาศยาน 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ท่าอากาศยานสมุย ท่าอากาศยานตราดและท่าอากาศยานสุโขทัย และมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการพลังงานชั้นนำระดับภูมิภาค" ม.ร.ว. ศุภดิศ กล่าว

นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 17,094 ล้านบาท มีรายได้ค่าบริการจำนวน 2,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จาก 2,807 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ค่าบริการของธุรกิจให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยาน 82% และรายได้ค่าบริการของธุรกิจให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อ 18% โดยมีปริมาณน้ำมันอากาศยาน 4,562 ล้านลิตร เติบโตขึ้น 2.4% และปริมาณน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ 3,413 ล้านลิตร ลดลง 1.1% กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 780 ล้านบาท ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2561 โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 27.5% เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ ต้องรับรู้ต้นทุนบริการในอดีต หรือค่าชดเชยลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจำนวน 80 ล้านบาท ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2562

"บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบคุณค่าและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ตลอดห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจอย่างสมดุลในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การดำเนินการด้านการรับน้ำมันจากบริษัทน้ำมันที่เป็นกระบวนการต้นน้ำไปจนถึงการเติมน้ำมันให้แก่สายการบินซึ่งเป็นผู้รับบริการที่เป็นกระบวนการปลายน้ำด้วยกระบวนการที่มีคุณภาพ ความปลอดภัยและมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและใส่ใจปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมส่งเสริมการบริหารจัดการความรู้และการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้อย่างเหมาะสม รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กรให้พร้อมขับเคลื่อนกลยุทธ์เติบโตให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้" นายประกอบเกียรติ กล่าว

หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในสภาวะที่การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มบริษัทฯ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อให้สามารถสานต่ออุดมการณ์ทางธุรกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน โดยการขยายธุรกิจหลักไปยังสนามบินที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ และเพิ่มสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจอื่นๆ

ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้ของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 80/20 โดยเป็นรายได้จากธุรกิจหลัก 80% และธุรกิจอื่นๆ 20% แต่ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าขยายธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 60/40 "สำหรับความคืบหน้าการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในส่วนของธุรกิจหลัก บาฟส์ จับมือกับพันธมิตร เข้าร่วมประมูลโครงการระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือ ซึ่งบริษัทผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประกาศผล นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนและการวิเคราะห์โอกาสและศักยภาพของตลาด พร้อมแสวงหาพันธมิตรที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะได้ผลสรุปในปี 2563 ในส่วนของธุรกิจอื่น บริษัทมีแนวทางที่จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การขยายไลน์การผลิตรถเติมน้ำมันและรถสนับสนุนภาคพื้นดินภายในสนามบินที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการออกแบบทางวิศวกรรมเฉพาะและใช้เทคโนโลยีระบบวิศวกรรมที่ทันสมัย อีกทั้งหาช่องทางที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีหน้า" ม.ล. ณัฐสิทธิ์ กล่าว

ปัจจุบัน บาฟส์กรุ๊ป มีบริษัทในเครือทั้งสิ้น 6 บริษัท ได้แก่

1. บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (Fuel Pipeline Transportation Limited: FPT) สัดส่วนการถือหุ้น 75.0% ดำเนินการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินจากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก (สายบางจาก-ดอนเมือง-บางปะอิน) และจากสถานีจัดเก็บน้ำมันบริเวณช่องนนทรี (สายมักกะสัน-สุวรรณภูมิ) ปัจจุบันกำลังดำเนินโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ โดยวางท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินจากคลังน้ำมันบางปะอินไปยังคลังน้ำมันจังหวัดพิจิตรและคลังน้ำมันจังหวัดลำปาง

2. บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (Thai Aviation Refuelling Company Limited: TARCO) สัดส่วนการถือหุ้น 90.0% ดำเนินการให้บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อแบบ Hydrant ณ ท่าอากาศ-ยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบันกำลังดำเนินโครงการวางท่อระบบ hydrant ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2

3. บริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด (Intoplane Services Company Limited: IPS) สัดส่วนการถือหุ้น 83.3% ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ที่ท่าอากาศยานสมุย ตราด และสุโขทัย

4. บริษัท บาฟส์ อินโนเวชั่น ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (BAFS Innovation Development Company Limited: BID) สัดส่วนการถือหุ้น 100.0% ดำเนินการประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการศึกษาวิเคราะห์ วิจัย พัฒนา ปรับปรุง ออกแบบ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการให้สิทธิและให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

5. บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด (BAFS INTECH Company Limited) สัดส่วนการถือหุ้น 90.0% ดำเนินธุรกิจออกแบบ ผลิต ประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานและอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้นอากาศยาน

6. บริษัท บีพีทีจี จำกัด (BPTG Company Limited) สัดส่วนการถือหุ้น 40.0% ดำเนินธุรกิจประกอบสถานีบริการน้ำมันบริเวณด้านหน้าคลังน้ำมันพิจิตร คลังน้ำมันนครลำปาง และสถานีเพิ่มแรงดันที่กำแพงเพชร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ