ปัจจุบันการปรับโฉมโชว์รูมและศูนย์บริการคอนเซ็ปต์ใหม่เริ่มทยอยปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยจำนวน 16 แห่งทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นจากอาคารสำนักงานใหญ่และศูนย์บริการของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อเป็นต้นแบบให้กับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ หลังจากนี้คาดว่าภายในปี 2565 จะแล้วเสร็จมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4.3 พันล้านบาท นับเป็นเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย"
สำหรับความหมายที่แฝงผ่านตัวอักษร T-O-U-C-H มีดังนี้
T มาจาก "Trust" หรือ "ความเชื่อมั่น" ที่ผู้ใช้รถชาวไทยมีให้กับ "อีซูซุ" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "แบรนด์ที่คุ้มค่าเงินสูงสุด" (Best Value for Money) นั่นคือคุณภาพดีที่สุด ประหยัดน้ำมันที่สุด เครือข่ายการจำหน่ายและการบริการหลังการขายดีที่สุด และราคาขายต่อดีที่สุด ทำให้ "อีซูซุ" เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นเสมอมา จนเกิดคำกล่าวของผู้ใช้รถชาวไทยที่ว่า"รถบรรทุก ต้องอีซูซุ" "รถปิกอัพ ต้องอีซูซุ"
O มาจาก "Omotenashi" หรือ "วัฒนธรรมการบริการเหนือระดับ" ซึ่งเป็นแนวคิดของวัฒนธรรมการบริการของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงว่าคนมีจิตบริการเป็นเลิศ อีซูซุถือเป็นเจ้าแรกในแวดวงธุรกิจเมืองไทย ไม่เฉพาะแต่ในวงการรถยนต์เท่านั้น ที่นำวัฒนธรรมการบริการนี้มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยยกระดับจากโครงการ "ยิ้มจากใจ" หรือ Hearty Smile ซึ่ง ผู้จำหน่ายอีซูซุทุกแห่งได้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเรียบร้อยแล้ว
U มาจาก "Understanding" หรือ "ความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า" โดยอีซูซุมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเสมอ โดยยึดจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลักตลอดมา
C มาจาก "Community" หรือ "เพื่อชุมชน" เป็นสถานที่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกในชุมชนต่าง ๆ ของสังคมไทย
H มาจาก "Hi-tech" หรือ "เทคโนโลยีล้ำสมัย" อีซูซุคือผู้นำด้านนวัตกรรมในวงการรถยนต์ของไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ๆ มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์" พลานุภาพ...พลิกโลก! ที่พัฒนาตามแนวคิด "ยนตรกรรมที่เหนือคำว่าปิกอัพ" (Beyond the Pickup) สำหรับการบริการหลังการขายในยุคดิจิตอลนี้ อีซูซุได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น เช่น เว็บแอพลิเคชั่น "my-ISUZU" , Line official และ Social media ต่าง ๆ เป็นต้น