และรังสียูวีจากแสงแดดที่แรงขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ไม่เพียงพอ แล้วปริมาณวิตามินซีเท่าไหร่ที่จะเพียงพอสำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท
แบลคมอร์ส จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินแบลคมอร์ส จากประเทศออสเตรเลีย โดยน.ส.ปทมาภรณ์ วิกิณิยะธนี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และ น.ส.วรรษยา วิเศษศักดากร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ปลุกกระแสให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลจากโรคต่างๆ ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมโรดโชว์ ในคอนเซ็ปต์ "Cที่แท้ทรู" สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานวิตามินซีที่มีคุณภาพดีอย่างแท้จริงให้ถึง 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงเป็นประจำ โดยมี นายณัฐที เทียนศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ให้เกียรติเป็นวิทยากร ให้ความรู้แก่ประชาชนและพนักงานออฟฟิศ ณ อาคารยูไนเต็ด ถนนสีลม
นายณัฐที เล่าให้ฟังว่า องค์การอาหารและยาได้ให้คำ แนะนำว่าคนไทยควรได้รับวิตามินซี ในปริมาณขั้นต่ำตามค่า RDA อยู่ที่ประมาณ 60 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่ต่ำกว่านี้ร่างกายอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขาดวิตามินซี โดยในปัจจุบันได้มีผลงานวิจัยที่สนับสนุนว่า ถ้าเราได้รับวิตามินซี ในปริมาณ1,000-3,000 มิลลิกรัมต่อวันแล้ว ก็อาจมีผลดีเกี่ยวกับสุขภาพของภูมิคุ้มกันของเรานั่นเอง ซึ่งทั้งนี้ปริมาณความต้องการของวิตามินซีในร่างกายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่อาศัยด้วย โดยหากอาศัยในพื้นที่ที่สภาพแวดล้อมมีความเป็นธรรมชาติ ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรจะได้รับก็ไม่สูงมากนัก ตรงข้ามกับผู้คนที่อยู่ในเมือง เผชิญกับมลภาวะปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการก็จะสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งปริมาณของวิตามิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะเท่ากับการทานส้มเขียวหวานประมาณ 60 ลูกต่อวัน ซึ่งในชีวิตประจำวันอาจเป็นเรื่องยากที่จะทานผลไม้ในปริมาณมากเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ผู้คนใช้วิถีชีวิตที่เร่งรีบ การพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่เป็นประจำทุกมื้อ ก็เป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประเภทวิตามินซี จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีที่เพียงพอกับความต้องการสำหรับเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเป็นประจำ
ทั้งนี้ คนที่เป็นโรคกระเพาะ หรือภาวะกรดไหลย้อย ควรเลือกวิตามินซีที่มีความเป็นกรดต่ำ เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ และการเลือกวิตามินซีนั้น ควรเลือกที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติด้วย เพราะมีแนวโน้มที่ช่วยในเรื่องของการดูดซึมวิตามินซีในร่างกาย อย่างไรก็ตาม วิตามินซีเป็นวิตามินที่สามารถเสื่อมสภาพได้ง่าย เมื่อเจอความร้อนและแสงแดด ดังนั้นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนี้ จึงจำเป็นต้องใส่ใจกระบวนการผลิต โดยเลือกผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานสากล บรรจุภัณฑ์ควรทำจากขวดแก้วที่สามารถกรองแสงได้ ซึ่งคุณภาพของขวดแก้วที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ควรมีมาตรฐานเดียวกับที่ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยา เพราะทำให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันการเสื่อมสภาพของวิตามินได้
ส่วนข้อกังวลสารตกค้างในร่างกายนั้น วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ ดังนั้น หลังจากรับประทานวิตามินซี ควรทานน้ำตามประมาณ 1 แก้วเป็นประจำ และใน 1 วันนั้นแนะนำให้ดูแลเรื่องการทานน้ำให้เพียงพอเฉลี่ย 1.5-2 ลิตรต่อวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาดังกล่าวได้