ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินงาน และพบปะราษฎร รวมทั้งเยี่ยมชมผลการดำเนินงาน่ของโครงการฯ

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ฯ แห่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรพื้นที่แนวชายแดนประเทศไทย - ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณดอยยอดห้วยน้ำลาว บ้านเย้าหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ทรงพบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้าง บางส่วนของพื้นที่ปลูกพืชเสพติดและเกิดปัญหาด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน จึงพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ขึ้น โดยจัดสรรที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้กับราษฎรเพื่อลดปัญหาการบุกรุกทำลายป่า

การนี้ องคมนตรีได้กล่าวกับราษฎรสมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่ฯ ว่าโครงการนี้จะดำเนินการต่อไป ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน ต่อยอด และขยายผลโครงการของสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวงทุกโครงการ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนที่อยู่บนพื้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะให้สมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่ได้อยู่กับป่าเพื่อดูแลป่าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่วนงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกองทัพ แทนพี่น้องส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้อยู่บนพื้นที่สูง และเชื่อว่าสมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่ทุกคนต่างตระหนักดี ถึงพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านว่า พระองค์ทรงฝากป่าไว้กับทุกคน หากป่าอุดมสมบูรณ์ก็จะมีน้ำจากบนดอยไหลรินลงไปยังลำห้วยลำธารข้างล่างหล่อเลี้ยงเทือกสวนไร่นาของพี่น้องชาวไทยร่วมชาติที่ได้รับประโยชน์จากน้ำในการทำการเกษตร ในการอุปโภคบริโภค และการใช้สอยประจำวัน

"พวกเราต่างเติบโตขึ้นมาจากเด็กหญิงเป็นนางสาว จากเด็กชายเป็นนาย มีครอบครัวกันต่อไปในอนาคตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีสมดังพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ก็ต้องขอขอบคุณทีมงานในโครงการนี้ และหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ นี้ ที่ได้ช่วยกันผลัดเปลี่ยนบุคลากรขึ้นมาดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้กับสมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่แห่งนี้สืบเนื่องกันมา ร่วม 17 ปี" นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี กล่าว

ทางด้านนางวรรณดี บุญมา ราษฎรเผ่ากระเหรี่ยง สมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่หนองห้า เผยว่าในตอนนี้ชีวิตของทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นมาก เมื่อก่อนที่ยังไม่มีโครงการฯ มีความลำบากในการใช้ชีวิตมาก เมื่อมีโครงการแล้วทางการสนับสนับสนุนให้ปลูกพืชที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูกกาแฟใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ ผลผลิตก็ออกมาดี ขายได้ราคา นอกจากนี้ก็ยังปลูกผัก ปลูกสตรอเบอรี่ และทอผ้าด้วย มีรายได้ที่มากกว่าเมื่อก่อนมาก

"รู้สึกดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีที่ทรงห่วงใยสมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่ และได้พระราชทานสิ่งของมาให้ ทุกคนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ พวกเราทุกคนจะตั้งใจดูแลป่า ดูแลต้นน้ำ อยู่กับป่า โดยไม่ทำลายป่า และจะร่วมกันพัฒนาบ้านเล็กในป่าใหญ่ให้ดียิ่งๆ ขึ้น" นางวรรณดี บุญมา กล่าว

ส่วนนางสาวมาริสา กิจกรัณย์ เยาวชนเผ่าอาข่า สมาชิกบ้านเล็กในป่าใหญ่หนองห้า ซึ่งเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎรบ้านเล็กในป่าใหญ่ และได้ให้องคมนตรีและคณะเดินทางขึ้นมาเยี่ยมเยียนและนำสิ่งของพระราชทานมาให้ ทุกคนมีความสุขมากและจะตอบแทนพระองค์ด้วยการเป็นเด็กดีตั้งใจทำความดีให้กับหมู่บ้านต่อไป

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า แห่งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมดำเนินงานสนองพระราชดำริ เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังส่งเสริมอาชีพด้านศิลปาชีพ การศึกษา การสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน การจัดระเบียบชุมชนเป็นหมู่บ้านแนวชายแดนเพื่อเฝ้าระวังป้องกันปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงการอนุรักษ์และป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าตามแนวพระราชดำริ "คนอยู่กับป่า" อีกด้วย

สำหรับแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไปจะมีการรักษาสภาพป่าที่สมบูรณ์ไว้ไม่ให้ถูกทำลาย ฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกทำลายให้คืนสู่ธรรมชาติทั้งป่าธรรมชาติและป่าใช้สอย ส่งเสริมการศึกษาให้กับราษฎรโดยจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ประจำหมู่บ้าน ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตจากกาแฟและพืชเมืองหนาวอื่น ๆ เพื่อให้ราษฎรมีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาโครงการฯ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้โครงการตามพระราชดำริ และท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติโดยเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดพะเยา เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการ พัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎร เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพื้นที่สืบไป