วว.จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการการผลิตก๊าซชีวภาพโดยใช้ชีวมวลประเภท Lignocellulosic จากกากมันสำปะหลังกระบวนการผลิตเอทานอล ข้าวฟ่างหวาน

ศุกร์ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๐:๕๕
ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการ "การผลิตก๊าซชีวภาพโดยใช้ชีวมวลประเภท Lignocellulosic จากกากมันสำปะหลังจากกระบวนการผลิตเอทานอลและข้าวฟ่างหวาน" ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และบริษัทซัพพลาย เอนเนอร์จี เมเนจเม้นท์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์การประชุมเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการวิจัย พร้อมทั้งรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ ผู้ประกอบการ ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจใช้ประโยชน์จากงานวิจัยนี้ จำนวน 50 คน รวมทั้งมีการจัดเสวนาเรื่อง "ทิศทางและความเป็นไปได้ในการผลิตก๊าซชีวภาพจากชีวมวลในภาคอุตสาหกรรม" โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายผจญ ศรีบุญเรือง นายกสมาคมการค้าก๊าซชีวภาพ ดร.พรพรรณ พาณิชย์นำสิน จากหน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมชีวเคมีและโรงงานต้นแบบ นายพรอรัญ สุวรรณพลาย อุปนายกสมาคมการค้าก๊าซชีวภาพ ผศ.ดร.พีรกานติ์ บรรเจิดกิจ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ดร.รุจิรา จิตรหวัง นักวิจัย วว. เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ วว. มีพื้นฐานเทคโนโลยีด้านก๊าซชีวภาพและเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ปรึกษาด้านก๊าซชีวภาพของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ซึ่งมีแผนดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพสำหรับของเสียทางการเกษตรและพืชพลังงาน รวมถึงศึกษาวัตถุดิบชีวมวลชนิดใหม่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ และพัฒนาเทคโนโลยีในกลุ่ม Anaerobic Phased Solids (APS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีต้นแบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะและชีวมวล ดำเนินงานโดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม วว. ตั้งอยู่ที่สถานีวิจัยลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันมีถังปฏิกิริยาแบบกึ่งเชิงพาณิชย์ขนาด 1,600 ลูกบาศก์เมตร ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงชีวภาพผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ไม่เกิน 300 kW ผลจากงานวิจัยดังกล่าว นอกจากจะช่วยพัฒนาองค์ความรู้ในการผลิตก๊าซชีวภาพจากชีวมวลประเภท Lignocellulosic จากกากมันสำปะหลังจากกระบวนการผลิตเอทานอลและข้าวฟ่างหวานแล้ว ยังสามารถนำของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมโรงงานผลิตเอทานอลมาผลิตเป็นพลังงาน นอกจากนี้ยังจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพื้นที่การฝังกลบ สำหรับผู้ประกอบการที่รับกำจัดกากของเสียจากอุตสาหกรรมที่มีของแข็งปนเปื้อนสูง เช่น กากมันสำปะหลัง ขยะ น้ำเสีย และตะกอนจุลินทรีย์ เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานวิจัยด้านการผลิตก๊าซชีวภาพ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม วว. ได้ที่ โทร. 0 2577 9000 E-mail : [email protected] Line@Tistr www.tistr.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version