นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหารเอ็นเฮลท์ กล่าวว่า "บันทึกเอ็มโอยูนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ถูกผลิตและคิดค้นโดยนัก วิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญไทยให้เข้าสู่ตลาดการแข่งขันทางธุรกิจได้ โดยบริษัทมีความพร้อมทางด้านบุคลากรและเทคโนโลยี ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตรทางด้านการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ของประเทศไทยและภูมิภาค"
"ทั้งนี้ เอ็นเฮลท์ยังสนใจ ในการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและบริการทางการแพทย์ที่เหมาะสมต่อเวชกรรมแบบเจาะจง (Precision Medicine) ที่เป็นศาสตร์ใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถวินิจฉัยและรักษาโรคยากๆได้อย่างตรงจุด ซึ่งมีการศึกษาลงลึกไปถึงระดับยีนของผู้ป่วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ลดขั้นตอนความซ้ำซ้อน และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวใช้ชีวิตปกติได้เร็วยิ่งขึ้น" นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวปิดท้าย
ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กล่าวว่า "นอกจากการสนับสนุนและพัฒนาเชิงผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 องค์กรยังให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ ให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถ ต่อยอดไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมสาธารณสุขไทย เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคธุรกิจและประชาชนให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุค 4.0 อย่างมั่นใจ"