นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 Money Expo Year-End 2019 ที่ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2562 ภายใต้แนวคิด "Digital Orchestra" เปิดเผยว่า มีประชาชนในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เช่น สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และ ชลบุรี เดินทางมาใช้บริการทางการเงินและการลงทุนอย่างคึกคัก ทำให้การจัดงานตลอด 4 วัน มียอดธุรกรรมทางการเงินการลงทุนรวมกว่า 14,200 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการภายในงานกว่า 27,400 ราย และมียอดผู้เข้าชมงานประมาณ 150,000 คน
สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์ บ้านยังฮิตติดอันดับ 1 กว่า 6,800 ล้านบาท จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกโครงการ "บ้านดีมีดาวน์" ซึ่งภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ 50,000 บาทต่อราย จำนวน 100,000 ราย และก่อนหน้านี้ก็ได้ลดค่าธรรมเนียมการโอนจากปกติ 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดจำนองจากปกติ 1%เหลือ 0.01%
ซึ่งธนาคารของรัฐได้ขานรับมาตรการดังกล่าว โดย ธนาคารกรุงไทย ได้นำ "สินเชื่อบ้านกรุงไทย...สุขใจถ้วนหน้า" มาเปิดให้บริการในงาน Money Expo Year-End 2019 เป็นครั้งแรก เพื่อสนับสนุนโครงการบ้านดีมีดาวน์ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ 2 ต่อ ต่อที่ 1อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.50% ต่อปี หรือเฉลี่ย 3 ปี เพียง 2.50% ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาและค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ต่อที่ 2 สำหรับลูกค้า 1,000 รายแรกที่ได้รับอนุมัติ ธนาคารช่วยผ่อนให้อีก 5,500 บาท ส่วนลูกค้ารายที่ 1,001-10,000 ธนาคารลดดอกเบี้ยปีแรกลงอีก 0.10%
ด้าน ธนาคารออมสิน ก็นำ "สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" จ่ายค่างวดเพียง 10 บาทต่อเดือนต่อวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ด้วยดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.010% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุดถึง 40 ปี มาให้บริการเป็นครั้งแรกในงานด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารพาณิชย์มาแข่งขันกันในงาน เช่น สินเชื่อบ้านกรุงศรี อัตราดอกเบี้ย 0.95% ต่อปี 9 เดือนแรก สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ธนาคารแห่งประเทศจีน อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2.70% เฉลี่ย 3 ปี2.80% และสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไทยเครดิตฯที่สามารถรวมหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลได้ด้วยกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน
ส่วนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่นำบ้านและคอนโดฯ มาจำหน่ายภายในงาน ก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานโดยมียอดขายกว่า 60 ล้านบาท รวมทั้งยังมีโครงการบ้านและคอนโดฯ สำหรับวัยเกษียณในโซน Good Living for Aging Society มาจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ซึ่งในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับวัยเกษียณ เช่น จุดบริการสุขภาพ ปุ่มกดฉุกเฉินภายในบ้านที่สามารถเรียก แพทย์มาดูแลได้ถึงบ้าน และ Nursing Home สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต้องการวางแผนชีวิตเพื่อรับวัยเกษียณ
อันดับ 2 สินเชื่อเอสเอ็มอี/สตาร์ตอัพ กว่า 4,400 ล้านบาท โดยมีโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน เช่น สินเชื่อ SME ดอกเบี้ยดี4% วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท สินเชื่อ Startup NO.1 อัตราดอกเบี้ย 1.99% ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ใช้ระบบบัญชีเดียวจะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษเพียง 1% ต่อปีเท่านั้น
สำหรับผลิตภัณฑ์การออมและการลงทุนก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานมากเช่นเดียวกัน โดยมียอดประกันชีวิต/ประกันภัย/ประกันสุขภาพ สูงเป็นอันดับ 3 กว่า 1,270 ล้านบาท แบบประกันที่ได้รับความนิยม คือ แบบประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น ระยะเวลาชำระเบี้ย 5-7 ปี ระยะเวลาความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ที่ให้ผลตอบแทน IRR ระหว่าง 2.50-3.25% ขณะที่แบบประกันบำนาญเพื่อการเกษียณอายุก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าในการเลือกวางแผนเกษียณ รวมทั้งเลือกทำประกันสุขภาพเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
ซึ่งลูกค้าที่ซื้อประกันนอกจากจะนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังได้รับโปรโมชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในงานเท่านั้น เช่นซื้อประกันชีวิตรับทองคำแท่ง 20 บาท/ทัวร์โคเอเชีย 2 ที่นั่ง/Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท/กระเป๋าเดินทาง ประกันภัยรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 18% ประกันมะเร็งรับเงินคืน 15% เป็นต้น
ด้าน เงินฝากและสลากออมทรัพย์ มียอดสูงเป็นอันดับ 4 กว่า 700 ล้านบาท โดยธนาคารออมสิน มีโปรโมชั่นเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 106 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดสูงสุด 10% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4% ต่อปี ยกเว้นภาษี ทำให้มีประชาชนมาเข้าคิวตั้งแต่เช้าทุกวัน เงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.25% ต่อปี เงินฝากประจำ 9 เดือน ธนาคารซิตี้แบงก์ 1.75% ต่อปี และเงินฝากออมทรัพย์อีซี่ ธนาคารไทยพาณิชย์ อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% ต่อปี
ปีนี้ยอดเงินลงทุนใน กองทุนรวม มีมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท กองทุนที่ได้รับนิยมคือ กองทุน LTF & RMF สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี ประกอบกับเป็นจังหวะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงทำให้การลงทุนในกองทุนหุ้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นางสาวภาคนีกล่าวว่า ผู้เข้าชมงานได้สมัครใช้บริการ สินเชื่อบุคคล รวมกว่า 2,000 ราย วงเงินกว่า 380 ล้านบาท และสมัคร บัตรเครดิต กว่า 3,700 ราย วงเงินกว่า 180 ล้านบาท
ภายในงานยังมีบริการให้คำปรึกษาวางแผนการออมการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว และแอปพลิเคชั่นการลงทุนต่างๆ เช่น @ccess Mobile จาก บลจ.กรุงศรี แอปพลิเคชั่น สำหรับการจัดการเรื่องการลงทุนในกองทุนรวม ทั้ง LTF-RMF, Wealth Me แอปพลิเคชั่นที่ให้บริการเปิดพอร์ตหุ้นออนไลน์ โดย บล.KT-ZMICO และ Bualuang Wealthcast ให้บริการ Podcast สำหรับนักลงทุนจาก บล.บัวหลวง