นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ประจำปี 2562 (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 20,532 ล้านบาท (รวมผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มแผ่นดินทอง ในระยะเวลา 10 เดือน 1 ตุลาคม 2561 – 31 กรกฎาคม 2562) โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 15,544 ล้านบาท คิดเป็น 76% ของรายได้รวม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและโรงแรม 1,488 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของรายได้รวม ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ 2,213 ล้านบาท คิดเป็น 11% ของรายได้รวม และรายได้ที่เกิดขึ้นจากการขายเงินลงทุนของบริษัทย่อย 1,287 ล้านบาท คิดเป็น 6% ของรายได้รวม และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 1,597 ล้านบาท
"ในปี 2562 รายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งจากแนวราบและแนวสูงซึ่งอยู่ในธุรกิจการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 12,132 ล้านบาท และรายได้จากแนวสูง 3,411.85 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงสร้างธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจอสังหาฯ เป็นฟันเฟืองหลัก นำโดย บริษัท แกรนด์ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ GRAND UNITY ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม หลังจากปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญ สู่แนวคิด Simply Makes Sense. ในปีที่ผ่านมา ส่งแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาด อาทิ เซียล่า (CIELA) เดอ ลาพีส (De LAPIS) เดนิม (Denim) อนิล (ANIL) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอสังหาฯ เป็นโครงการเชิงพาณิชย์ที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบรายประจำ ทั้งการพัฒนาอาคารสำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ เช่น โรงแรม โมเดน่า บายเฟรเซอร์ บุรีรัมย์ (Modena by Fraser Buriram) ซึ่งในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทย่อยในกลุ่มยูนิเวนเจอร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาฯ อาทิ บริษัท เซสเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านบริหารจัดการนิติบุคคลและธุรกิจอสังหาฯ กลุ่มบริษัทยูนิเวนเจอร์ ที่ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาด้านการเงิน การลงทุน และผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ จากความครบวงจร สร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอสังหาฯ ของยูนิเวนเจอร์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับในปี 2563 จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่รวม 7 โครงการ โดยมีมูลค่าโครงการรวมที่ 16,925 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทุกเซกเมนต์ได้อย่างครบถ้วน" นายวรวรรต กล่าวในตอนท้าย