ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ จัดทำมาตรฐานอาชีพสาขาวิชาชีพ สาขาธุรกิจเสริมสวย ระยะที่ 2 ณ โรงแรมเซ็นทาราศูนย์ราชการ ศูนย์วายุภักดิ์ กรุงเทพฯ ว่า ที่ผ่านมา ทาง สคช.ได้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพไปแล้วกว่า 700 อาชีพ ทั้งในกลุ่มเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการบริการ วิชาชีพธุรกิจเสริมสวย เป็นหนึ่งในสาขาการบริการ ที่เป็นอาชีพแรกขององค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ที่ได้รับมาตรฐาน iso 17024 และได้จัดทำมาตรฐานอาชีพในเฟสแรกไปแล้ว 2 สาขา คือ ช่างทำผมบุรุษ และช่างทำผมสุภาพสตรี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้สนใจร่วมเข้ารับการประเมินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้งโอกาสให้ผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะ และได้รับใบรับรองมาตรฐานอาชีพ จาก สคช. เป็นที่ยอมรับในวงการช่างทำผมระดับสากลและได้ทำงานในประเทศต่างๆกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
สำหรับการเดินหน้าในการต่อยอด การจัดทำมาตรฐานอาชีพธุรกิจเสริมสวย ต่อ ในเฟส 2 นี้ จะมีครอบคลุมเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 อาชีพ อาทิ ช่างทำเล็บ ช่างสักเสริมความงาม ช่างแต่งหน้า ครูสอนเสริมสวย และผู้บริหารธุรกิจเสริมสวย ซึ่งจะเป็นการพัฒนายกระดับขีดความสามารถของบุคคลากร ให้มีมาตรฐานในวิชาชีพดังกล่าวเพื่อการยอมรับในระดับสากล
โดยปัจจุบัน ในส่วนของ สคช. เองได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยี และ จัดทำ Application " TPOI " ปักหมุดมืออาชีพ เพื่อความทันสมัยในยุค digital และอำนวยความสะดวกให้ ทั้ง ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค สามารถค้นหาข้อมูลบุคคลในอาชีพที่เป็นมืออาชีพซึ่งผ่านมาตรฐานการรับรองคุณวุฒวิชาชีพ ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการก้าวสู่ความเป็นสากลในการสร้างมาตรฐานวิชาชีพในอาชีพสาขาต่างๆของคนไทย ว่า "เป็นมืออาชีพ" ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานตามเกณฑ์ จาก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช.
ด้าน รศ.ดร.เนตร์พัณณา ยาวิราช ผู้แทนจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี ผู้จัดการโครงการมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพฯ ธุรกิจเสริมสวย (ระยะที่ 2) กล่าวว่า การพัฒนากำลังคนให้มี "สมรรถนะ" อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จำเป็นที่จะต้องมีกลไกระบบการวัดที่มี "มาตรฐาน" เป็นระบบ ซึ่งระบบคุณวุฒิวิชาชีพที่เป็นมาตรฐานสากลจะสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้แก่กลไกการวัดที่เป็นมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับทั้งจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ
สำหรับการจัดทำมาตรฐานอาชีพเสริมสวย ระยะที่ 2 นี้ นับเป็นโอกาสที่ดีเพราะเป็นครั้งแรกวงการอาชีพในธุรกิจเสริมสวย ที่ได้มีการรวมทีมของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งมีผลงานและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนทีมงานวิจัย ที่พร้อมให้ความร่วมมือในการกำหนดมาตรฐานอาชีพในธุรกิจเสริมสวยในทุกกระบวนการ ทีเช่น ต้องรู้ว่า ช่างทำผม ช่างแต่งหน้า ช่างทำเล็บควร ฯลฯ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ในแต่ละขั้นตอนการให้บริการต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเสริมสวยอย่างครบวงจรให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้วงการธุรกิจเสริมสวยมีความเข้มแข็ง และยั่งยืนสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย