นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมกล่าวว่า "ในโลกอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งต่างจากที่คนรุ่นผู้ใหญ่อย่างพวกเราคุ้นเคย เยาวชนต้องกล้าฝันและพร้อมทำความฝันให้เป็นจริงในการเติมเต็มศักยภาพของตนเอง ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อเพราะปัญหาความยากจน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมให้ความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟในการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนไทย ให้กล้าฝัน กล้าลงมือทำ และมีชีวิตที่สมดุล"
นายฮวน แซนทานเดอร์ รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมมหกรรมฯ และกล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเฉลิมฉลองกับทุกคนในโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนในครั้งนี้ เราเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ฉลองความเป็นตัวเองที่ทุกคนต่างก็มีพลังเชิงบวก มีความเฉลียวฉลาด และมีพลังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในสังคมและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้ เวทีพูดคุยและกิจกรรมต่าง ๆ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้เสียงของเด็กและเยาวชนเป็นที่รับฟังมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างพื้นที่พูดคุยที่มีความหมายโดยมุ่งเน้นไปที่ทักษะที่เขาต้องการเพื่อที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายในด้านอาชีพและส่วนตัว"
"ปัจจุบัน มีเยาวชนในประเทศไทยอายุระหว่าง 15-24 ปีกว่า 1.3 ล้านคนไม่ได้รับการศึกษาหรือการจ้างงาน ขณะที่โลกของเรามีโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งในด้านเทคโนโลยีชีววิทยา วิทยาการด้านไซเบอร์สเปซ และปัญญาประดิษฐ์ สิ่งเหล่านี้ ทำให้พวกเราและบุคลากรในวงการศึกษาและการฝึกหัดอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชน ได้หันมาทบทวนว่าเยาวชนกำลังได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่อโลกอนาคตอยู่หรือไม่ นอกจากนั้น ภาคเอกชนก็ต่างมีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกันในการสร้างโอกาสประสบการณ์ทางการทำงาน ผ่านโครงการและการฝึกงานต่าง ๆ รวมถึงการฝึกหัดให้ตรงกับงานที่ทำ" นายฮวน กล่าวเพิ่มเติม
ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมเป็น 4 โซนหลัก โดยโซนแรกคือ "Dare to Be Heard: พูดให้ดัง ฟังเราให้ชัด" – เวทีทอล์กโชว์ของนักพูดเยาวชนที่ยกแก๊งมาแชร์ประสบการณ์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้เพื่อวิ่งตามความฝัน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมุมมองด้านบวกที่ช่วยให้ชีวิตมายืนในจุดที่ตนเองภาคภูมิใจผ่าน 10 ตัวแทนเยาวชน ได้แก่ พชร จิราธิวัฒน์ (พีช), อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ (ม๊าเดี่ยว), ระริน สถิตธนาสาร (น้องลิลลี่) เจ้าของฉายา เกรตา ธันเบิร์ก เมืองไทย, กาญจนา พิมพา (ปุ๊กกี้) Miss Deaf Asia 2019, กฤตนัน ดิษฐบรรจง (ปังปอนด์), ชลชาติ พานทอง (แม็ค) และอัครพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (หมี), ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ (ธันย์), ยลฤดี ปิยะทัต (พลอย) และเหมวิช วาฤทธิ์ (ฮับ)
พีช-พชร จิราธิวัฒน์ นักแสดงชื่อดังและ Friend of UNICEF ร่วมเป็น 1 ใน 10 ของตัวแทนเยาวชนขึ้นพูดบนเวทีทอล์กโชว์ครั้งแรก โดยกล่าวว่า "ผมไม่เคยขึ้นพูดบนเวทีแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ขึ้นมาแชร์ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งสมัยนี้มีวัยรุ่นหลายคนเลยที่อยากเป็นเจ้าของกิจการ แต่จริง ๆ แล้วการเป็นเจ้าของกิจการไม่มีคำว่าสบายเลย สิ่งสำคัญอยู่ที่น้อง ๆ ต้องใช้ความมุ่งมั่นทุ่มเท กล้าคิด กล้าทำ และกล้าที่จะผิดหวัง ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา รู้จักคิดวิพากษ์วิจารณ์ตนเองเพื่อปรับปรุงตนเอง อยากให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หาความสุขของตนเองให้เจอ และใช้ชีวิตให้เต็มที่"
พีชกล่าวเพิ่มเติมว่าการให้พื้นที่กับเด็กและเยาวชนในการมีส่วนร่วมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขาเป็นเรื่องสำคัญมาก โครงการ Dare to Dream ของยูนิเซฟ ถือเป็นเวทีสำคัญที่ให้เยาวชนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นของตัวเองว่าอยากทำอะไร อยากต่อยอดทักษะอะไร ซึ่งเด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
กิจกรรมโซนที่สองคือ "Dare to Unlock: ขอถามเจาะใจรุ่นพี่" ที่เปิดโอกาสให้ยิงคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพกับรุ่นพี่ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา อาทิ เขมิศรา พลเดช (เบล) นักแสดงชื่อดังจากซีรีส์ฮอร์โมน และโศภิษฐ์สกร โชติธนฤทธิ์ (Softpomz) YouTuber ชื่อดังตัวแทนวัยรุ่นสายบันเทิงและไลฟ์สไตล์ รวมถึงผู้บริหารจากบริษัทชื่อดังหลายแห่ง ส่วนโซนที่สามคือ "Dare to Imagine" ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ร่วมนำเสนอแนวทางการเรียนการสอนด้านทักษะแบบใหม่ และโซนสุดท้ายคือนิทรรศการและมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ IRONBOY, วง PILLS, และ DJ FAHSAI
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยได้ริเริ่มโครงการ Dare to Dream ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคตขึ้นเพื่อให้เยาวชนทั่วประเทศได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมสู่ชีวิตในอนาคตผ่านการตอบโพลสำรวจออนไลน์