นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เปิดเผยถึง ความคืบหน้าแผนการรุกธุรกิจ Personal Health Care Products เป็นอีกยุทธศาสตร์สำคัญในการเติบโตผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ดิ แองเจิ้ล โกลบอล จำกัด ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อดำเนินธุรกิจในรูปแบบการตลาดเครือข่าย (Network Marketing) จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในหลากหลายช่องทาง ปัจจุบัน จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกางแผนกลยุทธ์เพื่อผลักดันการเติบโตให้ธุรกิจในกลุ่ม
นอกจากนี้ ดิ แองเจิ้ล โกลบอล เป็นอีกกลยุทธ์ที่เข้ามาเสริมธุรกิจหลักของบริษัทในเครือ ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทาน และเตรียมขยายโอกาสไปยังธุรกิจอาหารในรูปแบบใหม่ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในกลุ่ม Mass Market ด้วยเป้าหมาย เพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรที่แข็งแกร่ง
ปัจจุบัน ภาพรวมธุรกิจของ GLOCON แบ่งเป็น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 48% ธุรกิจผลิตอาหารที่เป็นวัตถุดิบแช่แข็ง (Frozen Food) อาหารพร้อมรับประทาน (Ready Meal) เข้าสู่ช่องทางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ (Convenience Store) มีสัดส่วน 32% และธุรกิจร้านอาหารแบบ Quick Service Restaurant สัดส่วน 17% และอื่นๆ อีก 4% ในอนาคตมีแผนปรับสัดส่วนของรายได้และกำไรให้มาจากธุรกิจอาหาร และธุรกิจ Personal Health Care Products มากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายและความสามารถการทำกำไร
"GLOCON ปรับกลยุทธ์ เข้ามารุกธุรกิจใหม่ ด้วยเป้าหมาย เพิ่มกำไรขั้นต้นและเพิ่มรายได้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะสินค้าที่เข้าสู่ธุรกิจผู้บริโภค หวังขยายฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในแบรนด์อย่างยั่งยืน ผ่านแผนการตลาดที่จัดทำร่วมกับสมาชิกของดิ แองเจิ้ล โกลบอล พร้อมปรับสัดส่วนของรายได้และกำไรให้มาจากธุรกิจอาหาร และธุรกิจ Personal Health Care Product มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ธุรกิจผลิตภัณธ์เพื่อสุขภาพยังเป็นธุรกิจน้องใหม่ในกลุ่ม อาจต้องใช้เวลาในการสร้างฐานประมาณ 1-2 ไตรมาส เพื่อเดินต่อไปอย่างรอบคอบ และเร่งสปีดได้เร็วขึ้นในอนาคต" นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ด้านนายเอื้ออารี ต่อเนื่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ แองเจิ้ล โกลบอล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ในรูปแบบการตลาดเครือข่าย (Network Marketing) เปิดเผยว่า ดิ แองเจิ้ลฯ ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เพื่อนำนวัตกรรมเครือข่ายเข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยจะทำธุรกิจในรูปแบบการตลาดเครือข่าย (Network Marketing) ในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายช่องทาง ซึ่งทำให้เกิดการกระจายรายได้แบบปากต่อปากในรูปแบบ Word of Mouth Marketing ที่ใช้สายสัมพันธ์ในการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยมีองค์ความรู้ (Intellectual Distribution) ทำให้เกิดลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ได้ง่าย (Product Lovers & Loyalty Customers) รวมถึงสร้างสรรค์ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ
ดิ แองเจิ้ล โกลบอล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2562 เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ หลากหลาย ทั้งสุขภาพ ความงาม และผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ทั้งผู้รักสุขภาพและผิวพรรณ เพื่อการกินดีอยู่ดี มีเทคโนโลยีและเครื่องมือการทำการตลาดยุคดิจิทัล ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายช่องทาง ผ่านระบบ Beyond O2O ที่ได้รวบรวมจุดแข็งทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ ต่อยอดพัฒนาซอฟแวร์ อัจฉริยะ ที่จะช่วยหุ้นส่วนธุรกิจ สามารถตรวจสอบการเติบโตขององค์กรธุรกิจได้แบบ Real Time รวมถึงได้สร้างเครื่องมือบุกตลาดออนไลน์ที่ทันสมัยใช้ได้จริง และมีหลักสูตรออนไลน์มืออาชีพ (Professional Course) ที่สร้างผลลัพธ์ได้รวดเร็ว รองรับลูกค้าและนักธุรกิจที่สามารถใช้ขยายตลาดไปได้ทั่วโลก
จากความเชี่ยวชาญของผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพ จึงพร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ล้ำยุคเพื่อสุขภาพที่เหนือกว่า Beyond Wellness Concept สู่ผู้บริโภคจากไทยไปทั่วโลก ทั้งนี้ The Angel Global ได้รับใบอนุญาต จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคแห่งประเทศไทย (สคบ.) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการจัดตั้งองค์กรธุรกิจให้มีองค์ประกอบครบสมบูรณ์ในทุกด้าน เพื่อการสร้างนวัตกรรมเครือข่ายผู้บริโภค ที่แท้จริง (Real Innovative Consumers Network) ได้แก่ เปิด Beyond Wellness Center ต้นแบบ ที่ CW Tower ชั้น 3 โซนพลาซ่า กรุงเทพมหานคร และ เตรียมขยายสาขาของบริษัทให้ครบ 4 ภูมิภาค (หัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ระยอง ขอนแก่น) รวมถึงสาขาต่างประเทศ เริ่มจาก ในกลุ่มประเทศ AEC ที่เรามีเครือข่ายอยู่ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น เป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ ที่จะขยายธุรกิจออกไปทั่วโลกให้กับสมาชิกระดับผู้นำธุรกิจมืออาชีพที่จะสามารถขยายเครือข่ายได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ที่ครอบคลุมผู้บริโภคยุคใหม่ ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ราคาจับต้องได้ โดยในปี 2562 มี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 18 รายการ คือ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Health Reju หมวดย้อนวัยสุขภาพ ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 2 Skin Reju & Spa Series และผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 3 Innovative Life Style
สำหรับแผนการจ่ายผลตอบแทนที่มีความยุติธรรม กับสมาชิกทุกระดับ ที่ต่อยอดเป็น Oneness Platform รองรับการขยายธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การกระจายรายได้ในระดับชุมชน สร้าง New Community ผ่าน Beyond Wellness Shop ที่จะมีการต่อยอดนำผลิตภัณฑ์ Wellness Food จากบริษัทแม่ มาจำหน่ายแก่ผู้บริโภค ในชุมชนที่มีร้านตั้งอยู่ และ สร้าง New Lifestyle ให้กับสมาชิก The Angel ร่วมกับกลุ่มร้านอาหารที่บริษัทแม่เป็นเจ้าของแบรนด์ เช่น A&W, Kitchen Plus, Bread Talk รวมถึงในอนาคตอันใกล้จะมีพันธมิตรจากธุรกิจประกันชีวิต ประกันวินาศภัย มาเสริมการสร้าง New Life Style ใหม่ๆให้กับสมาชิกอีกด้วย
เป้าหมายของบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2563 อยู่ที่ 100 ล้านบาท และมีสมาชิก 19,100 ท่าน โดยภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2563 - 2567) โตอย่างโดดเด่น