นายรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า กระแสดิจิทัล ดิสรัปชันผลักดันให้ธุรกิจทุกขนาดต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก ซึ่งแต่ละขนาดก็จะเจออุปสรรคที่แตกต่างกันไป จากการศึกษาของ ทีเอ็มบี พบว่าปัญหาขององค์กรขนาดใหญ่มีเงินทุนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คนในองค์กรกลับไม่สามารถปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะการใช้งานเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กแม้จะตื่นตัวต่อกระแสดิจิทัล มีความเข้าใจและพร้อมจะปรับตัว แต่ก็จะขาดเงินทุนในการเข้าถึงเทคโนโลยีหรือโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ เพื่อช่วยลดขั้นตอนในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ด้วยเหตุนี้ ทีเอ็มบี ธนาคารที่ Make THE Difference ให้กับวงการธนาคารอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้มากกว่า จึงไม่เคยหยุดยั้งที่จะต่อยอดและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ TMB Business CLICK สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจทุกขนาดอย่างสมบูรณ์แบบในแพลตฟอร์มเดียว
นายรัชกร กล่าวว่า TMB Business CLICK เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพื่อลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ และมีโซลูชันที่แก้ปัญหาให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจได้อย่างครอบคลุม ลูกค้าธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลทางการเงิน และบริหารธุรกรรมการเงินแบบครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมการเงินทั้งในและต่างประเทศ เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงาน การจ่ายเงินซัพพลายเออร์ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การส่งคำสั่งเบิกเงินกู้ หรือแม้แต่การตั้งค่าเตือนต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เพื่อสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างเต็มกำลัง
"จากนี้ผมเชื่อว่าเราจะเห็นการเติบโตของการทำธุรกรรมบนดิจิทัล แบงก์กิ้ง แพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ จากในอดีตที่ทุกธุรกรรมเกิดขึ้นที่สาขาทั้งหมด มาสู่อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้งในปัจจุบันและก้าวไปสู่ดิจิทัล ดิสรัปชันอีกมากมาย เพราะต้นทุนของเทคโนโลยีและโซลูชันที่ต่ำลงแต่ครบวงจรมากขึ้น ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างง่ายขึ้น ซึ่งในปีนี้มีการเติบโตของธุรกรรมดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจทีเอ็มบีเอง สูงขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ TMB Business CLICK ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นายรัชกร อธิบายต่อว่า ในปีหน้า ทีเอ็มบี มีแผนเดินเกมรุกเพื่อพัฒนาบริการด้านดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจให้แตกต่าง โดยคำนึงถึงหลักการสำคัญ 3 ข้อ ดังนี้
1. ต้องมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้าธุรกิจ เพราะลูกค้าธุรกิจมีความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อน ทีเอ็มบีจึงต้องทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดเห็นว่าการบริหารธุรกรรมทางการเงินด้วยดิจิทัล แบงก์กิ้ง แพลตฟอร์ม ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เช่น การล็อกอินครั้งเดียวก็สามารถใช้งาน TMB Business CLICK ได้ทุกแพลตฟอร์ม
2. ต้องเป็นมากกว่าผู้ให้บริการทางการเงิน TMB Business CLICK พร้อมนำเสนอบริการใหม่ๆ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าธุรกิจทุกขนาดที่มากกว่าความรวดเร็ว เพราะเพียงแค่ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม (ฝาก/ ถอน/ โอน/ รับ/ จ่าย) ไม่เพียงพออีกต่อไป และได้กลายเป็นมาตรฐานของผู้ให้บริการด้านการเงินไปแล้ว
3. ต้องสามารถนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในอดีตการเก็บข้อมูลไม่เป็นระบบและเก็บในรูปแบบเอกสาร จึงไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ด้วย TMB Business CLICK จึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เพราะถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล เช่น สถานะทางการเงิน สภาพคล่องของธุรกิจ ในอนาคตอาจต่อยอดไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ถึงแนวโน้มของธุรกิจในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร และเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ธุรกิจของคุณอยู่ในเกณฑ์ใด
"ทีเอ็มบี ไม่มองว่าดิจิทัลเป็นคำตอบของทุกอย่าง แต่การเข้าใจความต้องการของลูกค้าธุรกิจอย่างแท้จริงและมองว่าดิจิทัลจะเข้ามาเติมเต็ม มาช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างไรต่างหากที่สำคัญที่สุด" นายรัชกร กล่าวทิ้งท้าย ความมุ่งมั่นทั้งหมดนี้เอง ทำให้ผลงานด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งของ ทีเอ็มบี เป็นที่ประจักษ์ และนำมาซึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจมากมาย อาทิ รางวัล Customer Focus Award จากเวทีมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย หรือ Thailand Top Company Awards 2019 และ รางวัล Digital Bank of the Year Award 2018 ในงาน The Asset Triple A Digital Awards 2018 ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของทีเอ็มบีในการ Make THE Difference ให้กับวงการธนาคารอยู่เสมออย่างแท้จริง