ปัจจัยบวก
ช – เชิญชวนย้ายฐาน
ว -– วาดแผนการคลัง
ด -–ดันท่องเที่ยวหนุนไทย
- เชิญชวนย้ายฐาน การเร่งผลักดันให้เกิดการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาสู่ไทย โดยเฉพาะในเขต EEC เพื่อเลี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และสามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนได้ ช่วยนักลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต สร้างรายได้นอกภาคเกษตรให้ครัวเรือน อีกทั้งจะสนับสนุนให้การส่งออกเร่งตัวขึ้นได้
- วาดแผนการคลัง หลังงบประมาณประจำปี 2563 ผ่านรัฐสภาช่วงปลายมกราคม เราคาดหวังรัฐบาลออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนหรือการลดภาษี เพิ่มกำลังซื้อให้คนชั้นกลางมากขึ้น ด้านธปท. อาจใช้มาตรการผ่อนคลายอื่นเพิ่มเติมหรือผ่อนปรนเกณฑ์สินเชื่อหรือแม้แต่ลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อหวังเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจหากมีความจำเป็น
- ดันท่องเที่ยวหนุนไทย เป็นปัจจัยบวกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะหลังจากที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนประเทศไทยมากขึ้นนับจากไตรมาสที่สามเป็นต้นมา นอกจากนี้
พลังจากการท่องเที่ยวยังช่วยส่งผ่านถึงการบริโภคสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร อาหารและเครื่องดื่มในช่วงที่กำลังซื้อคนในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ปัจจัยลบ
ช – ช้ำ บ้านล้นตลาด
ว – วุ่น ค่าบาทผันผวน
ด – ดวลเดือด จีน-มะกัน
- ช้ำบ้านล้นตลาด อุปทานส่วนเกินของตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับสูง คาดว่าจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่นอกแนวรถไฟฟ้า หรือในกลุ่มที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท สะท้อนกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอของคนรายได้ระดับกลาง-ล่าง ในส่วนคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่ราคาสูงอาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่อาจใช้เวลาในการขายนานกว่าในอดีตจากภาวะเศรษฐกิจที่โตช้าและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง
- วุ่นค่าบาทผันผวน เงินบาทแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐและค่าเงินประเทศคู่ค้าจนกระทบผู้ส่งออกและผู้ลงทุนในประเทศ มีความเป็นไปได้ที่ปี 2563 บาทจะยังคงผันผวนในทิศทางแข็งค่าจากปัจจัยสงครามการค้าที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องและจากการที่ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทจะกระทบการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทำให้รายได้ภาค เกษตรยังอยู่ในระดับต่ำได้ ส่วนการท่องเที่ยวนั้น แม้อาจกระทบการท่องเที่ยวบ้างจากค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะสูงขึ้นตามเงินบาทที่แข็งค่า แต่เราเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเติบโตได้ตามความต้องการเดินทางออกนอกประเทศโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีน
- ดวลเดือดจีน-มะกัน คือปัญหาสงครามการค้าที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง แม้ในปี 2563 นี้เราเชื่อว่าสงครามการค้าจะไม่ทวีความรุนแรงขึ้นอีก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนปรับตัวได้ ไม่ว่าภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ระดับใดก็ตาม เพียงขอให้มีความชัดเจน อย่างไรก็ดี หากสงครามการค้าระอุขึ้นอีก จากภาษีที่สูงขึ้นหรือจากมีประเทศอื่นอีกที่ถูกขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ หรือหากสงครามการค้าลามไปสู่สงครามค่าเงินหรือสงครามเทคโนโลยี เศรษฐกิจโลกคงจะชะลอลงอีกซึ่งจะกระทบการส่งออกไทยและอุปสงค์ในประเทศได้ ด้วยทั้งภาวะโอกาสและความเสี่ยงในปีชวดนี้ เราคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 2.7 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.4 ในปี 2562