ขออัปเดตสถานะหัวใจปัจจุบันหน่อย?
พี่นาง : ก็สบายดี พี่นางไม่ค่อยเครียด พี่นางเป็นคนที่ทำงานก็ไม่ค่อยเครียด
กับมรสุมชีวิตที่ผ่านมา หนักที่สุดที่เคยเจอมา เรื่องราวที่เป็นข่าว ตอนนี้ความรู้สึกพี่นางเป็นยังไงบ้าง?
พี่นาง : พี่นางอาจจะแตกต่างกับคนอื่น พี่นางคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนต้องเจอ จะเจอมาก เจอน้อยเท่านั้นเอง พี่เฉยๆ
กับข่าวที่ผ่านมาถือเป็นมรสุมหนักที่สุดในชีวิตไหม?
พี่นาง : ถ้าพูดไปแล้วก็หนักที่สุด เพราะพี่นางเป็นนักร้องที่ไม่มีข่าว ไม่ได้ว่าตัวเองดีเลิศเลอ แต่พี่นางไม่ได้ด่างพ้อยในการเป็นนักร้อง พี่นางก็อยู่เรียบๆ ทำบุญกับพี่น้อง ข่าวแบบนี้บางคนก็มี บางคนก็ไม่มี แต่พี่นางกว่าจะมีก็นานเหมือนกัน ก็เลยคิดเป็นเรื่องธรรมชาติแล้วกัน
พี่นางใช้เวลาทำใจก้าวผ่านเรื่องราวเหล่านั้นนานไหม?
พี่นาง : ไม่นานนะคะ เพราะกำลังใจเยอะ เราก็เฉยๆ
ตอนนั้นที่เจอมรสุม อยู่คนเดียวมีร้องไห้ มีปรึกษาอะไรเยอะไหม?
พี่นาง : ไม่มี พูดเรื่องจริงเลยนะ ไม่รู้จะไปร้องไห้ทำไมให้เสียน้ำตา
ในเรื่องของการแบ่งทรัพย์สินล่ะพี่นาง?
พี่นาง : อันนี้พี่นางก็ไม่เรื่องมากเหมือนกัน อยากได้อะไรก็เอาไป
แล้วทำไมพี่นางถึงเลือกไม่เก็บสมบัติไว้เลย?
พี่นาง : ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะเรื่องมาก คงจะแบบโอ้โห...ยุ่งเลย ซึ่งพี่นางเป็นนักร้องมานานแล้ว มีทรัพย์สินที่อยู่อุดรอยู่แล้ว มีบ้านหลายหลัง มีรถหลายคัน แต่พอมันนายเข้า เราเริ่มอายุมากไปเราไม่ได้ยึดติด เดินหน้าต่อไป
คนใกล้ชิดบอกว่าพี่นางยกทรัพย์สินทั้งหมดให้เขาหมดเลย?
พี่นาง : แค่ในกรุงเทพฯ มีบ้าน มีรถ แค่นั้น หลักๆ พี่นางจะอยู่อุดรซะมากกว่า
พอจะบอกได้ไหมว่ามูลค่าทรัพย์สินที่ยกให้เท่าไหร่?
พี่นาง : เยอะอยู่ เฉพาะพี่นางซื้อบ้าน 2 หลังตอนนั้นก็ 7.5 ล้าน แล้วก็รถอีก ซื้อสดหมด รถเบนซ์ ฮุนได บ้านซื้อสดหมด พี่นางไม่เคยมีหนี้ติดตัว น่าจะสิบกว่าล้าน
พอยกสมบัติให้หมดในใจของเราอโหสิกรรมให้หมดเลยไหม?
พี่นาง : อภัยให้ แต่ใจไม่หวนกลับแค่นั้นเอง ไม่มีใครว่าตัวเองชั่ว มีแต่คนว่าตัวเองดีทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ยึดติดอะไร ไม่เอาความอยากเป็นที่ตั้ง เราก็สบายๆ เอาที่ตัวเราสบายมากกว่า ไปอยู่กับน้องก็สบายใจแล้ว
บทเรียนในครั้งนี้ทำให้พี่นางสแกนคนที่เข้ามาในชีวิตมากขึ้นไหม?
พี่นาง : ไม่สแกนเลย ถ้าใช่คำว่าเข็ดมันจะเป็นการระแวงไปหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าไประแวงตรงนั้น ถ้าเราทำบุญมาดี เดี๋ยวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะเอาออกไปเอง พี่นางคิดอย่างนั้น เราดูคนออกมาขึ้น คือเราดูออกแต่เราไม่พูด
สถานะหัวใจพี่นางมีคนมาจีบไหม?
พี่นาง : อันนี้เขาดูลักษณะเรา ไม่มีใครค่อยกล้าแบบนี้หรอก เพราะพี่นางเป็นคนนิ่งๆ สนุกสนานไป ตามที่พี่นางเป็น
แล้วพี่นางมีมองใครบ้างไหม?
พี่นาง : มองค่ะ พูดเฮฮากับพวกพีอาร์เขาก็จะพูดสนุกสนานกับเรา
แต่วงในเขาเม้าท์กันว่าการที่พี่เจ็ยครั้งนี้ ทำให้พี่นางเปลี่ยนแปลงรสนิยมการชอบคนรัก เปลี่ยนจากชายเป็นหญิง จริงไหม?
พี่นาง : อันนี้ผิด คนเราไม่รู้ตัวตน อย่าเพิ่งไปตัดสินคนคนนั้น เพราะว่าเราจะชอบใคร รักใคร มันอยู่ที่ตัวเรานี่รู้ดีที่สุด คนเราเห็นไปด้วยกัน มันถูกชะตากัน
แสดงว่าในการชอบเพศชาย เพศหญิงพี่นางก็ไม่ได้ปิดกั้น?
พี่นาง : คือเราเป็นผู้หญิง เอาตรงๆ จิตใจเราไม่มีไปทางนี้ เราไม่คิดว่าเกิดมาชาตินี้ต้องชอบผู้หญิง ไม่มี ไม่ใช่นิสัย ถ้าชอบผู้ชายไม่แน่ เพราะไม่ใช่เพศเดียวกัน มันต้องมีปิ้งปั้งกัน แต่เราก็อยู่ของเราอย่างนี้ มีความสุขมากกว่า แต่จะบอกว่าพี่นางปิดจะไม่เปิดแล้ว พี่นางก็ไม่พูด เข้าตัวเรา ถ้าเดกิดมีผู้ชายมาชอบ เอ้า...ผิดคำพูดแล้ว พี่นางถือสัจจะเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคุณอย่าพูดว่าจะชอบหญิงหรือเปล่า ชอบชายหรือเปล่า อย่าไปพูดเอาเป็นว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ถูกไหม เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อนาคตคุณจะดีหรือไม่ดีเราไม่สามารถรู้ได้ บางคนวาดฝันวิมานเอาไว้สวยหรูแต่ไม่ได้แบบที่ฝัน แต่พี่นางเนี่ยตามดวงชะตา ถ้าเราทำดีไม่มีอะไรที่จะมาล้มเราได้
แล้วคนที่เข้ามาจะเป็นปาะมาณไหน?
พี่นาง : พี่นางเป็นคนไม่มีสเปค เป็นคนดีมากกว่า อย่ามาฆ่ามาแกง ทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ แค่นั้นก็ดีใจมากแล้ว แต่ว่าในโชคชะตาเราทำกรรมอะไรมาเราไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ พี่นางอธิฐานว่าไม่ขอกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
มันเป็นเพราะอะไร เพราะครั้งนี้หรือเปล่า?
พี่นาง : ไม่ๆ ปฏิเสธได้เลยมันเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว พี่นางพูดกับพ่อแม่เสมอว่าไม่อยากมาเกิดอีก ขอชาติเดียว
พี่นางเที่ยวเก่งมา เห็นว่าญี่ปุ่นไปมาเกือบทุกเมืองแล้ว?
พี่นาง : หลายปีพี่นางก็ไปมาแล้ว แต่มันไม่มีโซเชียลแบบนี้ หลังจากที่พี่นางทำบุญเสร็จพี่นางก็ไม่ค่อยร้องเพลง รับงานก็ขอทางบริษัทว่าหนูขอไปเที่ยวได้ไหม เขาก็ตามใจอยากไปก็ไป
อยู่เมืองไทยกับเมืองนอกอยู่ไหนเยอะกว่ากัน?
พี่นาง : อยู่ที่เมืองไทย เมื่อก่อนร้องเพลงไม่ค่อยมีเวลา ไปต่างประเทศก็ไปร้องเพลงเหมือนกัน แต่ไม่ได้เที่ยว พี่นางเป็นคนเสียงแหบ ถ้าไม่นอนพักจะไม่มีเสียง ต้องพักให้เต็มๆ เจ้าภาพชวนไปพักพี่นางก็ไม่ไป อันนี้คือหลักในการทำงาน พี่นางจะเอางานไว้ก่อน ทีนี้พอเราไม่ได้รับผิดชอบอะไรในการไปเที่ยวก็สบาย
อะไรที่ทำให้พี่นางหลงไหลการท่องเที่ยวต่างประเทศ?
พี่นาง : น้องชายเคยพูดไว้ว่าฝันเป็นจริง พี่นางเคยพูดตั้งแต่เป็นสาว ถ้าฉันมีเงินจะเที่ยวรอบโลก
ยอดสูงสุดที่พี่นางเคยถูกลอตเตอรี่คือเท่าไหร่?
พี่นาง : ก็ถูกรางวัลที่ 5 ถึงที่2 แต่รางวัลที่1 พี่นางได้เป็นรางวัลบุญ
มีสักงวดไหมที่พี่ไม่ซื้อลอตเตอรี่?
พี่นาง : มี ที่ไม่ถูกก็มี แต่ส่วนมากมันจะถูกซะมากกว่า
มีเคล็ดลับอะไรที่ถูกได้ตลอด?
พี่นาง : มันเป็นดวงแต่ละคน
พี่นางดูดวงได้จริงๆ หรอ?
พี่นาง : ไม่ได้หรอก ก็งูๆ ปลาๆ พระอาจารย์นำชัยท่านก็จะสอนให้ พี่นางก็ดูลายมือ บัตรประชาชน ดูเลขท้าย ยังดูไม่ได้หมดหรอก เพราะมันเยอะมาก
คนมาขอให้พี่นางดูดวงเยอะไหม?
พี่นาง : เยอะค่ะ แต่พี่นางไม่ค่อยได้ดูหรอก เราไม่ใช่หมอดู เราหมอลำ
เห็นว่าไม่อยากดูใครสุ่มสี่สุ่มห้ากลัวจะเข้าตัว?
พี่นาง : ใช่ พระอาจารย์บอกดูสุ่มสี่สุ่มห้ามันไม่ดี
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ ศิริพร อำไพพงษ์ https://youtu.be/R3J8_5FoBQ8