Repton School ก่อตั้งขึ้นในปี 2100 เป็นองค์กรการกุศลเพื่อการศึกษาที่ไม่แสวงหาผลกำไร จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร จากนั้นในปี 2549 จึงก่อตั้งเป็นโรงเรียนนานาชาติและตั้งบริษัท Repton International Schools Ltd ขึ้นเพื่อเปิดโรงเรียนภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกันในประเทศต่างๆ ปัจจุบันมีห้าประเทศคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ (เปิดสอนระดับอนุบาล) อียิปต์ จีนและบัลแกเรีย โดยมีเป้าหมายการบริหารเพื่อสนับสนุนการศึกษาคุณภาพสูงไปยังทั่วโลก ด้วยความร่วมมือของนักลงทุนและหุ้นส่วนในท้องถิ่น
บริษัท King Wai Property Group จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ คิง ไว กรุ๊ป และโรงเรียน Repton กำลังวางแผนเปิดโรงเรียนประจำในพื้นที่ของ คิง ไว กรุ๊ป ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 โดย คิง ไว กรุ๊ป กำลังพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นเมืองแห่งการศึกษาแห่งใหม่ รองรับนักเรียนทั้ง ไทย จีนและนักเรียนต่างชาติที่จะเข้ามาเรียน
"ความร่วมมือระหว่าง คิง ไว กรุ๊ป และโรงเรียนนานาชาติ Repton International School ครั้งนี้ เป็นความพยายามที่จะนำสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพและชื่อสียงระดับโลกมาตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้เป็นที่บ่มเพาะความสามารถและเปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างไกลในระดับสากล และมีเครือข่ายสังคมวัยเรียนในระดับนานาชาติ ปัจจุบันรัฐบาลไทยพยายามเพิ่มศักยภาพของประเทศด้วยการยกระดับมาตรฐานการศึกษาในทุกด้านอยู่แล้ว เราเองก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเยาวชนรุ่นใหม่ให้นำพาประเทศบรรลุเป้าหมาย Thailand 4.0" คุณแอนโทนิโอ ฮาง ตัท ชาน รองประธานกรรม คิง ไว กรุ๊ป กล่าว
กลุ่ม คิง ไว กรุ๊ป ยังคงสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาการเติบโตในระยะยาวของบริษัทและเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 ดร. คิง ไว ชาน ประธานกรรมการ คิง ไว กรุ๊ป ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการไทยและฮ่องกง เปิดตัวโครงการทุนการศึกษา Hong Kong Scholarship Program for "Belt and Road" Students (Thailand) ให้ทุนเต็มจำนวน สำหรับนักเรียนไทยที่มีผลการเรียนโดดเด่นไปศึกษาระดับปริญญาตรีที่สถาบันการศึกษาของรัฐบาลฮ่องกง จากนั้นในปี 2559 ดร. คิง ไว ชาน ได้จัดตั้ง "ศูนย์นวัตกรรมและการพัฒนา Bauhinia Valley" (Bauhinia Valley Innovation and Development Center) ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 12 แห่ง เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรมและการลงทุนทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากฮ่องกงด้วย
คิง ไว กรุ๊ป กำลังเร่งหารือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อเดินหน้าโครงการเมกะ โปรเจกต์ทั้งสองแห่งในจังหวัดอยุธยาและฉะเชิงเทรา ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและจากนานาชาติ ทางกลุ่มกำลังพัฒนาโครงการอยุธยาให้กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และนวัตกรรมระดับภูมิภาค ซึ่งจะประกอบด้วยมหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา พื้นที่เชิงพาณิชย์ ศูนย์กระจายสินค้า พื้นที่อยู่อาศัยและศูนย์สุขภาพรองรับวัยเกษียณอายุ โครงการนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 2,605 ไร่ (420 เฮกตาร์) ซึ่งจะได้รับผลพวงจากการพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์เมืองนครราชสีมา (M6) ส่วนโครงการ AEC ของคิง ไว กรุ๊ป ในจังหวัดฉะเชิงเทรา กินเนื้อที่ 1,997 ไร่ (320 เฮกตาร์) บนพื้นโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จะเน้นไปที่การสร้างศูนย์ให้บริการด้านสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์