นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า โออาร์ มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมชุมชน จึงได้ตระหนักถึงพลังของการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม ให้เป็นสังคมแห่งการเกื้อกูลกัน โดย โออาร์ ร่วมกับ บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม จัดตั้ง "โครงการ คาเฟ่ อเมซอน ฟอร์ แช้นส์" นำความสำเร็จของธุรกิจ คาเฟ่ อเมซอน ที่ปัจจุบันมีกว่า 3,000 สาขาใน 10 ประเทศทั่วโลก มาสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ด้วยการจัดอบรมและพัฒนาให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการสามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเป็นบาริสต้ามืออาชีพได้ตามมาตรฐานของ คาเฟ่ อเมซอน โดยบาริสต้าส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติงานในร้าน คาเฟ่ อเมซอน ฟอร์ แช้นส์ จะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้พิการที่มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากผู้พิการทางร่างกาย และมักได้รับการจ้างงานที่ต่ำกว่าวุฒิการศึกษา รวมทั้งขาดการพัฒนาทักษะความสามารถในสายอาชีพ ทั้งนี้ คาเฟ่ อเมซอน ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยนำนวัตกรรมเครื่องบดกาแฟดิจิทัลแบบใหม่ (Hybrid Machine) มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานให้กับผู้พิการ นอกจากนี้ ยังนำเครื่องชำระเงินระบบ 2 หน้าจอ (Duo Screen POS) มาใช้เพื่อลดความผิดพลาดของการสั่งซื้อสินค้า เนื่องจากลูกค้าสามารถตรวจสอบรายการของตนเองได้ทันที รวมถึงการออกแบบการดำเนินงานภายในร้านให้สอดคล้องกับลักษณะและพฤติกรรมของผู้พิการ เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและสื่อสารกับลูกค้า
ปัจจุบัน มีร้าน คาเฟ่ อเมซอน ฟอร์ แช้นส์ เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 6 สาขา ในกรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดชลบุรี ได้แก่ สาขาหอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา สาขา ปตท. สำนักงานใหญ่ สาขาสนามลู่ปั่นจักรยาน เจริญสุขมงคลจิตสุวรรณภูมิ สาขาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) สาขาคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) และสาขาโรงพยาบาลแหลมฉบัง โดย โออาร์ ยังมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน สร้างงาน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างโอกาสอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้พิการไทย นางสาวจิราพร กล่าวเพิ่มเติม