บล. ฟินันเซีย ไซรัส เผย SFLEX อยู่ในตลาดบรรจุภัณฑ์แถวหน้าของประเทศไทย มีฐานลูกค้าเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำรายใหญ่ของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะยาว โดยราคาปิดตลาดอยู่ที่ 3.76 บาท วอลุ่มเทรดกว่า 335 ล้านบาท
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า ราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดบรรจุภัณฑ์ ในวันนี้เชื่อมั่นว่าโดยพื้นฐานของธุรกิจยังมีความแข็งแกร่งและแนวโน้มผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหุ้น SFLEX เป็นหุ้นที่มีการเติบโตและให้ผลตอบแทนที่ดี และด้วยศักยภาพของ SFLEX ในฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน หรือ Flexible Packaging ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า 16 ปี ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมศักยภาพการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและยึดหลักธรรมาภิบาล เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ควบคู่ความสามารถในการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"กลยุทธ์ในช่วงต่อจากนี้ SFLEX มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทางด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ในกลุ่มประเทศ CLMV ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง มั่นใจสร้างผลงานโดดเด่นในตลาดหุ้นไทยระยะยาว บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี ในช่วงระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า (ปี 63-65) ตามการขยายฐานลูกค้าใหม่" นายปรินทร์ธรณ์ กล่าว
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต เชื่อว่า SFLEX จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 3.64 บาท จากราคาไอพีโอที่ 3.88 บาทต่อหุ้น และราคาปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 3.94บาท ปิดตลาดที่ 3.76 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 335 ล้านบาท
"SFLEX มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งอย่างมาก ลูกค้าหลักล้วนเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของประเทศ ซึ่งบริษัทฯ เติบโตตามการขยายตัวของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ยิ่งไปกว่านั้น การที่บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดไปยังบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคมากขึ้น รวมทั้งแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญที่จะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต" นายสมภพ กล่าว