นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯจะเร่งสร้างผลประกอบการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหากเทียบกับปีก่อน เนื่องรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการสหกรณ์ฯ ทั้ง 3 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 7.95 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตน้ำประปาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งได้ดำเนินการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้นในปีที่ผ่านมา
"ในปี 2562 บริษัทฯพอใจกับผลงาน ถือว่าประสบความสำเร็จ จากการทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ในโครงการสหกรณ์ฯ ทั้ง 3 โครงการ และบริษัทฯยังมีโครงการผลิตน้ำประปาในสปป.ลาว ซึ่งโครงการนี้บริษัทฯผลิตน้ำประปาในเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อเดือน มิ.ย.2562 เพื่อจำหน่ายให้กับ การประปานครหลวงของลาว โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี และเป็นโครงการที่บริษัทฯจะรับรู้รายได้ทันที ทำให้มีรายได้ประจำเกิดขึ้น อีกทั้งเป็นธุรกิจใหม่ของ UPA นอกเหนือธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจได้ในอนาคต"
นายวิชญ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการเจรา การเข้าซื้อ หรือร่วมลงทุน (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในต่างประเทศ 2-3 โครงการ โดยจะอยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ซึ่งคาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ประมาณ 1 ในโครงการ ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ในไตรมาส1/2563 ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในเวียดนาม โดยอาจเป็นลักษณะการเข้าร่วมทุน ขณะที่โครงการในประเทศอยู่ระหว่างเจรจาอีก 1-2 โครงการ โดยจะเป็นการลงทุนลักษณะการเข้าซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) นอกจากนี้ บริษัทฯยังเดินหน้ามองหาโอกาสในการลงทุนด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนใหม่ทั้งใน และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง