นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยในฐานะเจ้าของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ได้ดำเนินงานในด้านต่างๆ โดยประสานหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) รวมทั้ง ยึดมั่นในความยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และได้นำแนวทางและวิธีการของการดำเนินการป้องกันการทุจริตหรือข้อตกลงคุณธรรม มาใช้กับการดำเนินการของโครงการฯ โดยในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ได้มีมติเห็นชอบเอกสารการคัดเลือกเอกชนฉบับปรับปรุง และมอบหมายให้การบินไทย ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการฯ จัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนโดยการบินไทยได้จัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรณีที่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน มีข้อสงสัย หรือ มีคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 22 มกราคม 2563 สำหรับกำหนดการยื่นข้อเสนอของเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน ได้กำหนดให้ยื่นภายในวันที่ 6 มีนาคม 2563
ทั้งนี้ หลังจากมีการยื่นข้อเสนอจากเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองและหาข้อสรุป เพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือก และร่างสัญญาร่วมทุน เสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการบินไทยคาดว่า
การเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือนพฤษภาคม 2563 หลังจากนั้น การบินไทยจะต้องส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยประมาณการว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุดในเดือนมิถุนายน 2563 จากนั้น การบินไทยจะนำเรื่องเสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอความเห็นชอบจาก กพอ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจาก กพอ.ในเดือนกรกฎาคม 2563 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบในเดือนสิงหาคม 2563 ต่อไป
อนึ่ง บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทยฯ และ เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน ภายในเดือนสิงหาคม 2563 และคาดว่าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาจะเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณเดือนเมษายน 2566