"วันนี้ธุรกิจธนาคาร ทุกคนต่างได้ผ่านกระบวนการ Disruption จาก Digital Platform กันหมด เราจะฉีกให้มากขึ้นโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นตัวตั้งโลกวันนี้มีการเข้าถึงแบบไร้ขีดจำกัด เราตั้งเป้าหมายว่าต้องพาลูกค้าให้เข้าถึงบริการที่ดีที่สุด ทำธุรกรรมทางการเงินทุกอย่างจากที่ใดในโลกก็ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมาสาขาด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย" นายอดิศร กล่าว
Digital Banking ของธนาคารจะตอบความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุดด้วย 3 แอปพลิเคชันหลัก คือ 1. CIMB THAI Digital Banking สำหรับทำธุรกรรมพื้นฐานโอนเงิน ชำระเงิน ซื้อขายกองทุน 2. Mobile Lending สำหรับปล่อยสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ผ่านมือถือ 3. Debt Consolidation การรวมหนี้เพื่อรีไฟแนนซ์ลดภาระดอกเบี้ยให้ถูกลง วันนี้การมี Digital Platform ไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มความ 'รวดเร็ว' หรือ 'ง่าย' ในการใช้ธุรกรรมทางการเงินหรือการเข้าถึงเท่านั้น เรากำลังจะก้าวไปถึงการทำให้การใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากขึ้น เช่น ใช้สินเชื่ออย่างมีวินัยขึ้นได้อย่างไร ทำอย่างไรดอกเบี้ยเงินกู้จะถูกลง หรือเราออมเงินพอเพียงเท่าไรแล้ว เป็นต้น
ด้านลูกค้าธุรกิจ ธนาคารมีบริการธนาคารออนไลน์เพื่อธุรกิจ 'BizChannel@CIMB' ที่รองรับทุกอุปกรณ์ทั้งบนคอมพิวเตอร์/โน้ตบุ้ค และล่าสุดได้ออกบริการแอปพลิเคชัน 'BizChannel@CIMB Mobile App' ออกมาช่วยให้ลูกค้าสามารถดูแลธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลกผ่านมือถือ/แท็บเล็ต
อีกหนึ่งจุดแข็งที่ธนาคารแข่งขันได้ดีคือ เรื่อง Wealth ธนาคารจะบริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์การเงินที่ครบทุกความต้องการตั้งแต่พื้นฐานไปถึงการลงทุนที่ซับซ้อน ด้านลูกค้าธุรกิจธนาคารเป็นผู้นำตลาดที่มีเครื่องไม้เครื่องมือจัดการบริหารความเสี่ยงและผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภทให้ลูกค้าธุรกิจและบริษัท นอกจากนี้ ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็น ASEAN Bank ของบริษัทในไทย และเดินหน้า add value ให้ลูกค้าผ่านการสนับสนุนสินเชื่อ วาณิชธนกิจ บริหารเงิน เทรดไฟแนนซ์ โดยจะสนับสนุนลูกค้าในประเทศทั้งลูกค้าฝั่งสถาบันการเงินและลูกค้าฝั่งบริษัท ทั้งความต้องการขยายธุรกิจในประเทศและช่วยลูกค้าที่ต้องการออกไปโตในอาเซียนได้