ทั้งนี้ มร.Toshiyuki SuZufki (ภาพขวามือ) ผู้บริหารตลาด Toyusu (Tokyo City Seika) กล่าวว่า "เราต้องการที่จะขยายการกระจายสินค้าเกษตรผ่านช่องทางที่อำนวยความสะดวกและมุ่งเน้นเรื่องของความปลอดภัย ตลอดจนแลกเปลี่ยนวิธีการในการจัดการสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ"
การลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อเป็นการขยายช่องทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ
2. เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านคุณภาพและการค้า
3. แลกเปลี่ยนความรู้ในด้านบุคลากรระหว่างตลาด
4. แลกเปลี่ยนเชิงเทคนิคในด้านมาตรฐานสินค้า
อนึ่ง ตลาด Toyusu (Tokyo City Seika) ได้ทำการเปิดตลาดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนตลาดสี่มุมเมือง เป็นตลาดกลางค้าส่งที่มีประสบการณ์ยาวนานถึง 37 ปี มีความแข็งแกร่งในฐานะตลาดค้า ส่งผักและผลไม้อันดับ 1 ในประเทศไทย ได้มีการพัฒนาตลาดผักเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นตลาดค้าส่งผักใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในเดือนตุลาคมปี 2564 เตรียมเปิดตลาดนานาชาติ (เฟสที่ 3)
ดังนั้น จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ของประเทศไทยและญี่ปุ่น เป็นการเสริมสร้างพันธมิตรจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทั้งสองประเทศ และร่วมกันในการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานผลผลิตตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าเกษตร ที่มีข้อจำกัดให้ได้รับการเอื้ออำนวยความสะดวก และให้เกิดการส่งออก ภายใต้ข้อตกลงทางการค้าของสองประเทศ มีการแลกเปลี่ยนการขนส่งที่มีคุณภาพ และวิธีการจัดการเรื่องอาหารปลอดภัย