EPCO มาตามนัด! กำไรปี 62 สนั่น! รับเงินขายโรงไฟฟ้าเวียดนามกว่า 1,070.15 ลบ. บุ๊ครายได้ทันที Q4/62

ศุกร์ ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๙ ๑๗:๒๐
EPCO รวยอู้ฟู่! ต้อนรับศักราชใหม่ รับเงินจากการขายโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 MW ในส่วนที่เหลือจาก BGC จำนวนรวม 944.25 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว เตรียมบุ๊คกำไรพิเศษกว่า 520 ล้านบาท เข้ามาทันทีในไตรมาส 4/62 ดันผลงานปีนี้ทุบสถิติ All Time High พร้อมเดินหน้าลุยโปรเจคใหม่ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (BGC) ได้ชำระเงินค่าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกวะวัตต์ ในส่วนที่เหลือ จำนวน 944.25 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้าได้วางเงินมัดจำมาแล้ว 125.90 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1070.15 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนที่กันไว้เป็นเงินประกันประมาณร้อยละ 15 ของราคาซื้อขายหุ้นและหนี้ครั้งนี้ และคาดว่าจะได้รับครบภายในเดือนมีนาคม 63

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว EPCO ลงทุนผ่าน บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO (โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งหมดใน EP) ทำการขายหุ้นและหนี้ของบริษัท โซล่าร์ พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้แก่ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC มูลค่าประมาณ 1,259 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต

"ดีลนี้ถือเป็นดีลประวัติศาสตร์สำหรับ EPCO โดยมีกำไรที่ได้จากการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 520 ล้านบาท จะบุ๊คเข้ามาทันทีในไตรมาส 4/62 ผลักดันให้ผลการดำเนินงานรอบปี 2562 สร้างสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโปรเจคใหม่เพิ่มเติม ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2563 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง"

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าในเวียดนามที่ขายให้กับ BGC เป็นการขายหุ้นและหนี้ทั้งหมด ซึ่งโครงการดังกล่าวทาง EP ได้เข้าไปลงทุนเมื่อราวปลายปี 2561 มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินกู้ 65% และมาจากเงินลงทุน 35% ทั้ง 2 โครงการ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam (EVN) เป็นเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariff หรือ FIT) ที่ 0.0935 เหรียญสหรัฐ/หน่วย หรือประมาณ 3.11 บาท/หน่วย โดย SPM ลงทุนในโปรเจคดังกล่าว 67% ใช้เงินลงทุนเพียงประมาณ 738 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ขายออกไปครั้งนี้ ทำให้ได้รับกำไรพิเศษจากการลงทุนประมาณ 520 ล้านบาท

ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เป็นบริษัทย่อยของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน) หรือ EPCO โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งหมดใน EP ปัจจุบัน EP ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน SPM และ SPM ถือหุ้นร้อยละ 67 ของหุ้นทั้งหมด ในบริษัท Phu Khanh Solar Power Joint Stock Company (PKS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่ง PKS ประกอบกิจการธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Xuan Tho 1 และ โครงการ Xuan Tho 2 มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ