ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี ริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต สิงคโปร์ กับนิทรรศการ DEJ? VU: อดีตของคุณคืออนาคตของฉัน โดย นที อุตฤทธิ์ 10 – 24 มกราคม 2563

จันทร์ ๐๖ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๖:๓๘
เพื่อเปิดตัวการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต ในสิงคโปร์ (Richard Koh Fine Art —RKFA) ทางแกลเลอรีได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยการนำเสนอผลงานพิเศษ โดยริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต 4 ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการของนที อุตฤทธิ์ (เกิดเมื่อปี 2513) ชื่อว่า DÉJÀ VU: Your Past is My Future หรืออดีตของคุณคืออนาคตของฉัน ซึ่งจะจัดแสดงในวันที่ 10 – 24 มกราคม 2563 ทั้งนี้นทีเคยจัดนิทรรศการเดี่ยวในสิงคโปร์มาแล้วก่อนหน้านี้แล้วในปี 2556 ซึ่งเขานำเสนองานบางส่วนจากผลงานชุด Optimism is Ridiculous หรือการมองโลกในแง่ดีคือเรื่องน่าขัน

DÉJÀ VU: Your Past is My Future นำเสนอบริบทใหม่ของจินตนาการผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางแสดงธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า ทั้งยังมีการชี้ให้เห็นถึงการแบ่งแยกทางวัฒนธรรมของตะวันออกและตะวันตกที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้เขาได้จัดแสดงผลงานชุดดังกล่าวมาแล้ว ณ Fondazion Made in Cloister แห่งเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลีในเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ผลงานดังกล่าวได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางเผยแผ่ศาสนาของพระพุทธเจ้าและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ที่เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี

ชื่อผลงาน Dejà Vu มาจากความทรงจำและการรำลึกถึงอดีตของนที ซึ่งเขามักจะมองเห็นภาพที่แลดูเลือนรางในความทรงจำและจิตใต้สำนึกที่ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นวัตถุดิบให้เขานำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน

นิทรรศการที่จัดแสดงในเมืองเนเปิลส์ก่อนหน้านี้ทำให้นทีรู้สึกเข้าถึงแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางแสดงธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าและพระบรมสารีริกธาตุท่ามกลางรูปปั้นหินอ่อนยุคกรีก-โรมันอันน่าประทับใจจากพิพิธภัณฑ์โบราณคดี ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อสันนิษฐานว่าพระพุทธเจ้าน่าจะเคยเสด็จมาที่นี่ในยุคอดีต เขาผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ เพื่ออธิบายความคิดเชิงนามธรรมด้าน 'เวลา' และ 'พื้นที่' พร้อมเชื่อมโยงระหว่างรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า (โดยใช้เทคนิคโมเสกสไตล์เนเปิลแบบโบราณ) และพระวัจนะของพระพุทธเจ้า (ผ่านเทคนิครอยขูดขีดเขียนบนผนังและสุนทรียศาสตร์แห่งการเคลือบเงาแบบไทย) นิทรรศการดังกล่าวถือเป็นความพยายามของนทีในการสังเคราะห์เรื่องเล่าของทางตะวันออกและตะวันตก รวมทั้งค้นหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ที่มีการเล่าเรื่องราวเป็นเส้นตรง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่และความเชื่อต่าง ๆ ทางศาสนา

Dejà Vu เป็นการขยายแนวคิดและกระบวนการทำงานของนทีจากนิทรรศการเนเปิลส์ ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นของเขาเกี่ยวกับผลงานดังกล่าวทำให้เขาได้พัฒนารูปแบบการนำเสนอและเทคนิคใหม่ รวมทั้งขยายขอบเขตทางภูมิศาสตร์และโบราณคดีให้กว้างขึ้น ดังนั้นผลงานดังกล่าวนี้จึงเป็นการค้นพบใหม่ ภายใต้มิติแห่งความหลากหลายทางภาษาศาสตร์และนิรุกติศาสตร์ ได้แก่ ละติน พราหมณ์ และภาษาบาลี-สันสกฤต – ซึ่งเป็นภาษาโบราณที่ใช้ในพิธีกรรมของพุทธศาสนานิกายเถรวาท นทีได้ใช้จินตนาการเพื่อถ่ายทอดให้เห็นถึงเส้นแบ่งระหว่างการเล่าเรื่องของตะวันออกและตะวันตก ทั้งยังเผยให้เห็นว่าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นได้ผ่านกระแสการเปลี่ยนแปลง การดูดกลืน และการพลิกผันที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับพลังทางสังคมและปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อชีวิต

นที อุตฤทธิ์ (เกิดเมื่อปี 2513 ที่กรุงเทพฯ) เข้าศึกษาในคณะวิจิตรศิลป์ในปี 2530 และจบการศึกษาด้านศิลปะการออกแบบกราฟิกจากที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ในปี 2534 นิทรรศการเดี่ยวของเขาประกอบด้วย Optimism is Ridiculous: the Altarpieces ณ The Private Museum ในสิงคโปร์ (2561); Optimism is Ridiculous: the Altarpieces ณ หอศิลป์แห่งชาติอินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย (2560); Optimism is Ridiculous: the Altarpieces ณ พิพิธภัณฑ์อายาลา กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ (2560); Illustration of the Crisis ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กรุงเทพฯ (2556); After Painting ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ สิงคโปร์ (2553) และ The Amusement of Dreams, Hope and Perfection ณ ศูนย์ศิลปะแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ (2550) นิทรรศการกลุ่มล่าสุด ได้แก่ Beyong Bliss ณ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 (2561); Contemporary Chaos ณ Vestfossen Kunstlaboratorium ประเทศนอร์เวย์ (2561);Thai Eye ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และ Saatchi Gallery ณ ลอนดอน สหราชอาณาจักร (2559/2558); Art of ASEAN ณ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ของธนาคารเนการา กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย (2558); Time of Others ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยโตเกียว ญี่ปุ่น (2558) และ Asian Art Biennale 2013: Everyday Life ณ พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติไต้หวัน (2556) ผลงานของเขารวมอยู่ในคอลเล็กชั่นที่โด่งดังมากมาย เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หอศิลป์ควีนส์แลนด์และแกลลอรีศิลปะสมัยใหม่ เมืองบริสเบน พิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ รวมถึงคอลเล็กชั่นส่วนตัวในยุโรปและเอเชีย

ริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยมีพื้นที่จัดแสดงงานในกัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ และสิงคโปร์ริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนแพลตฟอร์มระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ภายใต้ความเชื่อหลักมี่มุ่งพัฒนาอาชีพของศิลปิน แกลเลอรียังมุ่งเน้นจัดแสดงนิทรรศการอย่างสม่ำเสมอ เผยแพร่สิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัลและสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศกับแกลเลอรีอื่น ๆ ริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต มีส่วนร่วมกับชุมชนศิลปะโดยมีจุดประสงค์ในการพัฒนาวาทกรรมในระดับภูมิภาคและระหว่างวัฒนธรรม

หมายเหตุ: สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพทั้งหมด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version