ด้าน นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวว่า ในส่วนของ สนพ. ได้ติดตามสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัดเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบ กรณีพบผู้ป่วยต้องสงสัยให้คัดแยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยก พร้อมแจ้งข้อมูลไปยังกองควบคุมโรค สำนักอนามัย กทม. เพื่อสอบสวนโรค ขณะเดียวกันได้จัดทำแบบคัดกรองประวัติผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่ห้องอุบัติเหตุ - ฉุกเฉิน (ER) และจุดคัดกรองทุกจุด เพื่อแยกผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายสงสัยการติดเชื้อออกจากผู้ป่วยที่ไม่ติดเชื้อ โดยหากมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ คือ ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ มีประวัติปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อโรคซาร์ หรือเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดหรือเขตติดโรคโรคซาร์ หรือสัมผัสสัตว์ที่เป็นแหล่งรังโรคซาร์ และหากภายใน 14 วันก่อนมีอาการดังกล่าว และมีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ให้เจ้าหน้าที่สวมหน้ากาก N-95 แยกผู้ป่วยไปตรวจที่ห้องแยกโรคประจำโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยและญาติควรสวมหน้ากากปิดปากและจมูก (surgical mask) และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล เน้นการทำความสะอาดมือของผู้ปฏิบัติงาน (Hand hygiene) เพื่อลดการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อภายในโรงพยาบาล จากนั้นแจ้งคณะกรรมการควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล แล้วรายงานสถานการณ์แก่คณะกรรมการควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลและผู้บริหารตามลำดับชั้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนั้น ได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบ รวมถึงแนวทางปฏิบัติของโรงพยาบาล ผ่าน Facebook Fanpage สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และสื่อออนไลน์ของทุกโรงพยาบาล รวมถึงจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ภายในโรงพยาบาล เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อลดความตื่นตระหนกและก่อให้เกิดการดูแลตนเองอย่างถูกวิธีต่อไป
- ๒๔ ธ.ค. "เดชอิศม์" ชวน "สื่อ" เปิดบ้านกรมอนามัย โลว์คาร์บ ไม่โลว์แคล ห่างไกล NCDs
- ๒๓ ธ.ค. "เดชอิศม์" ชวนคนไทยเตรียมตัวก่อนมีคู่ สร้างลูกด้วยรัก ส่งเสริมการเกิด อย่างมีคุณภาพ
- ๒๓ ธ.ค. กรมอนามัย แนะ มาตรการป้องกันโรคโนโรไวรัส หวั่นระบาดช่วงเทศกาล