Dr. Lin กล่าวว่า "Vidaa รวบรวมคอนเทนต์จากผู้ให้บริการคอนเทนต์ที่ดีที่สุดทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกที่เป็นพันธมิตรของเรา ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Prime Video, YouTube, Red Bull TV, Deezer, DAZN, Rakuten TV และ Hungama ยิ่งไปกว่านั้น ในโอกาสอัปเดตระบบใหม่ เรายังได้นำบริการสตรีมมิ่งกีฬาอย่าง fuboTV มาสู่แพลตฟอร์มของเราในฐานะพันธมิตรรายใหม่ โดยแอปพลิเคชันของ fuboTV จะถูกติดตั้งในทีวีทุกเครื่องของไฮเซ่นส์ที่มีระบบปฏิบัติการ Vidaa OS ทำให้คุณสามารถเข้าถึงประสบการณ์กีฬาได้อย่างราบรื่นตามต้องการ โดยคลิกปุ่ม Sports บนรีโมต"
การรวม fuboTV เข้ากับ Vidaa จะทำให้ลีกกีฬาสำคัญ ๆ ทั้งหมด (NFL, NBA, MLB และ NHL) หรือแม้แต่กีฬาระดับวิทยาลัย ตลอดจนการแข่งขันในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค มาปรากฏบนแพลตฟอร์ม โดยรายการกีฬาเหล่านี้ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีและถูกรวบรวมไว้ให้เข้าถึงได้ง่ายภายในอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ยิ่งไปกว่านั้น fuboTV ยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเพียงไม่กี่รายที่ให้บริการสตรีมมิ่งกีฬาที่ความคมชัดระดับ 4K ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน นอกจากกีฬาแล้ว fuboTV ยังจะยกขบวนรายการข่าวและบันเทิงหลากหลายรายการมารวมไว้ใน Vidaa อีกด้วย
นอกจากนั้น ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงการฟังเพลงได้โดยตรงเช่นเดียวกัน โดย YouTube Music ซึ่งเป็นบริการสตรีมเพลง จะนำคุณเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลงง่ายกว่าที่เคย คุณสามารถดูรายชื่อศิลปินและมิวสิควิดีโอที่ชื่นชอบบน YouTube Music ได้ในคลิกเดียว
Dr. Lin กล่าวเสริมว่า "นอกจากกีฬาและดนตรีที่เป็นแกนหลักแล้ว แพลตฟอร์มเวอร์ชันนี้ยังมีสองสิ่งใหม่เพิ่มเข้ามา หนึ่งในนั้นคือ Vidaa Art ซึ่งไฮเซนส์ได้ร่วมมือกับชุมชนศิลปะดิจิทัลชั้นนำของโลกอย่าง DeviantArt ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2000 และปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 48 ล้านคนที่ได้ส่งมอบงานศิลปะต้นฉบับกว่า 370 ล้านชิ้น ผู้ใช้ Vidaa ทุกคนสามารถดาวน์โหลดงานศิลปะดิจิทัลจากศิลปินชั้นยอดนับพันคนได้ฟรี เพื่อเปลี่ยนห้องนั่งเล่นเป็นแกลเลอรี่ที่เคลื่อนไหวได้" โดยสามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้โดยตรงบนทีวี Hisense Vidaa ทุกเครื่องที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน DeviantArt ไว้ล่วงหน้าแล้ว สำหรับอีกหนึ่งการสร้างสรรค์ในแพลตฟอร์มโฉมใหม่นี้คือ Vidaa Free ซึ่งเหล่าครีเอเตอร์ของ Vidaa ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมคอนเทนต์ฟรีที่ดีที่สุดมาไว้บนแพลตฟอร์ม พร้อมนำเสนอในรูปแบบที่ผสมผสานและไหลลื่น โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ ซึ่งปัจจุบันมี PlutoTV, TubiTV และ Xumo ให้บริการอยู่แล้ว และกำลังขยายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกและท้องถิ่นรายใหม่อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ แผนริเริ่มสำคัญที่ไฮเซ่นส์นำมาสู่เวทีระดับโลกครั้งนี้คือ การมอบการเข้าถึงการศึกษาฟรีบนหน้าจอขนาดใหญ่ นั่นคือเหตุผลที่ไฮเซ่นส์ได้ร่วมมือกับ Mindset ซึ่งเป็นองค์กรเอ็นจีโอในประเทศแอฟริกาใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Nelson Mandela Foundation เพื่อนำวิดีโอการศึกษาสำหรับเด็กอายุ 6-18 ปี จำนวนมากกว่า 5,000 รายการ มาสู่หน้าจอขนาดใหญ่ และโปรเจกต์พิเศษนี้กำลังจะขยายไปยังตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ ไฮเซ่นส์เป็นผู้นำในตลาดทีวีของแอฟริกาใต้ด้วยยอดขายมากกว่าหนึ่งในสาม
สำหรับกำหนดการเปิดตัว Vidaa นั้น นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ไฮเซ่นส์เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มเวอร์ชันใหม่ในกว่า 120 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้เพื่อรองรับการขยายตัวในระดับสากล
Vidaa เป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิดที่เป็นขุมพลังให้กับสมาร์ททีวีของไฮเซ่นส์ ซึ่งในเวลาเพียง 6 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2014 แพลตฟอร์ม Vidaa สามารถก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญในวงการแพลตฟอร์มสมาร์ททีวี โดยในปี 2020 นี้ Vidaa จะได้รับการอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน Vidaa 4.0 และจะถูกติดตั้งในทีวีไฮเซนส์รุ่นใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ Vidaa ได้รวบรวมคอนเทนต์จากพันธมิตรที่ดีที่สุดทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกมาไว้ให้กับผู้ใช้ Vidaa แล้วอย่างครบครัน
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200108/2685133-1
คำบรรยายภาพ: แพลตฟอร์มสมาร์ททีวี VIDAA