นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานมีความคืบหน้าโดยมีข้อสรุป ดังนี้
(1) การพิจารณาแนวทางในการกำกับร่วมระหว่างไทยและฮ่องกง (regulatory mapping) ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจากที่ได้ตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กองทุนรวม รวมถึงกองทุนรวมอีทีเอฟ และกองทุนรวมทั่วไป คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2563 และหลังจากนั้นจะสามารถเสนอขายระหว่างกันได้ ซึ่ง ก.ล.ต. ไทยจะนำบริษัทจัดการลงทุนไทยมาประชุมร่วมกับ ก.ล.ต. ฮ่องกง กระทรวงการคลังฮ่องกง ธนาคารกลางฮ่องกง และผู้ประกอบการในตลาดทุนฮ่องกง รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายกองทุนรวม เช่น ธนาคาร เพื่อให้มีความเข้าใจร่วมกัน โดยเห็นควรให้มีการหยิบยกประเด็นด้านภาษีที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา เพื่อให้สามารถเทียบเคียงกันได้ ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ประสานกับกรมสรรพากรในเบื้องต้นแล้ว
(2) ก.ล.ต. ทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะพิจารณาวิเคราะห์ความแตกต่าง (gap analysis) ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ภายในปี 2563 ก่อนที่จะพิจารณาโอกาสที่จะมีการจดทะเบียนเสนอขายในสองตลาดต่อไป สำหรับตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ (DR) นั้น ก.ล.ต. ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ชี้แจงว่าเกณฑ์จะเหมือนกับการนำบริษัทไทยมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงโดยตรง ดังนั้น หากมีบริษัทไทยที่สนใจจะนำมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จะต้องผ่านการพิจารณาในรายละเอียด โดยเน้นด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน
(3) ก.ล.ต. ฮ่องกงยินดีให้ความร่วมมือทางเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพในเรื่องผลิตภัณฑ์การเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Financing) เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายตลาดทุนไทยที่ยั่งยืน