ในส่วนของการออกอากาศบน We TV ในประเทศไทยนั้น นายวรุตม์ ลีเรืองสกุล Managing Director บริษัท บีอีซีไอ คอเปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงข้อตกลงในครั้งนี้ว่า "ต้องถือว่าช่อง 3 เป็นผู้นำด้าน คอนเทนต์ละครอยู่แล้วและการขยายฐานผู้ชมไปในหลายแพลตฟอร์มนั้นก็เป็นการทำงานตามสิ่งที่ผู้ชมของเราต้องการแม้ว่าผู้ชมหลักของเราที่มีจำนวนมากจะสามารถรับชมละครช่อง 3 ทางออนไลน์ผ่าน แอปพลิเคชัน CH3+ (ซี-เอช-สาม-พลัส ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของ Mello) ได้อยู่แล้ว แต่ความร่วมมือกับ WeTV ครั้งนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มฐานผู้ชมของเราให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ WeTV เองก็กำลังเติบโตและขยายฐานผู้ชมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ผมจึงมองว่า WeTV เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของเราในการเพิ่มจำนวนผู้ชม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ"
นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ Country Manager, WeTV Thailand (ผู้จัดการประจำประเทศไทย) บริษัท เทนเซ็นต์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "เกือบหนึ่งปีที่เราได้เปิดตัว WeTV ในประเทศไทย เราได้นำเสนอซีรีส์คุณภาพระดับโลกจากเทนเซ็นต์ เพนกวิน พิคเจอร์ส อาทิ ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed) และอีกกว่า 200 เรื่อง ทำให้ปัจจุบัน WeTV ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งชั้นนำของไทย นอกจากการเป็นผู้นำคอนเทนต์จีน WeTV ยังมุ่งเน้นการนำละครคุณภาพดีของประเทศไทยมาฉาย รวมถึงการสร้างออริจินัลคอนเทนต์ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์พิเศษเฉพาะสำหรับผู้ใช้ของเรา สำหรับการร่วมมือกับช่อง 3 ในครั้งนี้ ด้วยแนวคิดและกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้กัน เราเชื่อว่าในฐานะที่ WeTV เป็นพันธมิตรรายแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศละครแบบคู่ขนาน และ รีรันละครแบบเอ็กซ์คลูซีฟ จะทำให้เราสามารถขยายฐานกลุ่มผู้ใช้ของ WeTV โดยคาดการณ์ว่าจะมีการดูละครไทยผ่านแพลตฟอร์มของเราเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ภายในปี 2020 นี้"
นางสาวกนกพรกล่าวต่อ "ที่สำคัญ เรายังได้เห็นถึงความสำเร็จของละครไทยหลายๆ เรื่องที่สร้างกระแสให้กับผู้บริโภคไปทั่วภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ WeTV จึงต้องการเข้ามาเป็นตัวกลางที่ช่วยเชื่อมและขยายความนิยมของละครไทยของช่อง 3 ไปยังประเทศจีนผ่าน เทนเซ็นต์ วิดีโอ รวมถึงผ่านแพลตฟอร์มของ WeTV ในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย"
ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่านอกจากการนำคอนเทนต์ไปออกอากาศบนแพลตฟอร์ม WeTV ที่สามารถรับชมได้ในประเทศไทยแล้ว ในการตกลงความร่วมมือครั้งนี้ยังมีการตกลงเกี่ยวกับการคัดเลือกละครไทยไปออกอากาศแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Tencent Video ผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน ที่มีฐานผู้ชมกว่า 550 ล้านคนต่อเดือน นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ Chief Commercial Officers บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า "ความชื่นชอบละครไทยในประเทศจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยละครเรื่องแรกของเราที่ออกอากาศบน Tencent Video แบบคู่ขนานกับประเทศไทยเมื่อสองปีที่ผ่านมา คือเรื่อง ลิขิตรัก (The Crown Princess) ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ ญาญ่า ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าชมมากกว่า 280 ล้านครั้ง นับเป็น TOP 5 ของคอนเทนต์ละครไทยที่มีคนดูมากที่สุดบน Tencent Video"
"โดยในส่วนของความร่วมมือครั้งนี้ เราก็จะร่วมมือกับ Tencent Video คัดสรรละครดังของช่อง 3 เพิ่มเติมอีก 3 เรื่อง เพื่อไปออกอากาศพร้อมกับประเทศจีน และออกอากาศในอีก 4 ประเทศในเอเชีย ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ชมชาวจีนและในประเทศอื่นๆ อีกด้วย" นายรณพงศ์กล่าวสรุป
โดยข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้จะครอบคลุมการทำงานร่วมกันในปี 2020 โดยละครช่อง 3 จะเริ่มออกอากาศทาง WeTV Thailand ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 เป็นต้นไป ส่วนจะมีละครเรื่องใดบ้างนั้น ทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไปในเวลาอันใกล้นี้ โดยละครที่คัดสรรไปออกอากาศทั้งแบบคู่ขนานและแบบดูรีรันบน WeTV และ Tencent Video นั้น ก็จะเป็นการที่ผู้ชมสามารถรับชมรายการได้เหมือนกันกับการรับชมรายการบนแอปพลิเคชัน CH3+ของทางช่อง 3 อาทิ การรับชมละครที่จะช้ากว่าการออกอากาศบนโทรทัศน์เพียง 2 ชั่วโมง ผู้ชมก็จะได้รับชมพร้อม ๆ กันทั้งบน WeTV และ Ch3+ ซึ่งนับเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย