คณะกรรมการ ป.ป.ช. ฟันอดีต ผอ. สำนักพุทธ ร่ำรวยผิดปกติ กว่า 600 ล้านบาท

พุธ ๑๕ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๐:๔๗
วันนี้ (15 มกราคม 2563) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์ที่จัดสรรให้วัดพนัญเชิงวรวิหาร ประจำปีงบประมาณ 2557 และปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ที่ได้ยื่นไว้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ (คู่สมรส) มีการนำฝากเงิน ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน รวมทั้งมีการซื้อที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตจำนวนมาก ซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่พึงมี

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน โดยมีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิและหัวหน้าพนักงานไต่สวน เป็นกรรมการไต่สวน คณะกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ผลการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2553 - 30 กันยายน 2557 พบเงินฝากและทรัพย์สินต่างๆ ของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ (คู่สมรส) รวมทั้งบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ นางธาริณี ดิตถ์วัชรไพศาล (อดีตคู่สมรส) บุตรหลาน และบุคคลอื่น โดยคณะกรรมการไต่สวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้ง 8 คน ชี้แจงที่มาของทรัพย์สินแล้วแต่บุคคลดังกล่าวไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินได้ ดังนี้

1. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ จำนวน 98,659,925.59 บาท ได้แก่ เงินฝากจำนวน 13 บัญชี เป็นเงิน 71,974,350.59 บาท, เงินลงทุน จำนวน 4 รายการ เป็นเงิน 12,580,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 12 กรมธรรม์ มูลค่า 14,105,575 บาท

2. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ (คู่สมรส) จำนวน 196,039,741.59 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 22 บัญชี เป็นเงิน 122,921,190.40 บาท, เงินลงทุน จำนวน 3 รายการ เป็นเงิน 6,815,695.39 บาท, ที่ดินในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 1 แปลง มูลค่า 760,000 บาท, ยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 3,809,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 10 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 61,733,855.80 บาท

3. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางธาริณี ดิตถ์วัชรไพศาล (อดีตคู่สมรส) จำนวน 131,437,217.45 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 56 บัญชี เป็นเงิน 105,151,313.88 บาท, เงินลงทุน จำนวน 25 รายการ เป็นเงิน 25,235,903.57 บาท และยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,050,000 บาท

4. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายธนรัตน์ ดิตถ์วัชรไพศาล (บุตร) จำนวน 26,726,284.56 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 10 บัญชี เป็นเงิน 20,843,037.56 บาท, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในจังหวัดสมุทรปราการ 1 รายการ มูลค่า 1,800,000 บาท, ยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,014,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต 4 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 3,069,247 บาท

5. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาวพิมพ์ภัสสร ดิตถ์วัชรไพศาล (บุตร) จำนวน 68,307,397.14 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 31 บัญชี เป็นเงิน 50,597,774.14 บาท, เงินลงทุน จำนวน 19 รายการ เป็นเงิน 9,750,000 บาท, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวม 3 รายการ (ในกรุงเทพมหานคร 2 รายการ และจังหวัดสมุทรปราการ 1 รายการ) รวมมูลค่า 5,856,489 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต 3 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 2,103,134 บาท

6. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาววรัทยา พรหมมาศ (หลานของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 500,000 บาท ได้แก่ ห้องชุด จำนวน 1 ห้อง ในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 500,000 บาท

7. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายปิยชาติ ศรีจันทร์ (บุคคลสนิทของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 4,500,000 บาท ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ ในกรุงเทพมหานคร มูลค่า 4,500,000 บาท

8. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาวณัฎฐาภรณ์ ทุน (บุตรของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 49,000,000 บาท ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ ในกรุงเทพมหานคร มูลค่า 49,000,000 บาท

รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งสิ้นจำนวน 575,170,566.33 บาท ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราวแล้วจำนวน 176,032,978.79 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพื่อขอให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version