นายชุมชนิตร จิตต์หมั่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือแทปไลน์ เปิดเผยในวาระที่บริษัท ดำเนินกิจการมาครบ 30 ปี ว่า ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทมา จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ ขนส่ง น้ำมันทางท่อมาแล้ว จำนวน กว่า 260,000 ล้านลิตร ปริมาณน้ำมันดังกล่าว หากเป็นการขนส่งโดยทางรถ จะเทียบเท่า กับวันละประมาณ 1,000 เที่ยว ซึ่งการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อนี้ จะช่วยลดมลพิษในอากาศ ที่เกิด จากรถขนส่งได้ถึงปีละ 80,000 ตัน เทียบเท่ากับการปลูกป่ามากถึง 50,000 ไร่ต่อปี
"แทปไลน์ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 30 ของการดำเนินงาน และเป็นส่วนสำคัญในด้านความมั่นคงด้านพลังงานของ ประเทศ อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากปริมาณน้ำมันที่เราขนส่งทางระบบท่อต่อวัน หาก เป็นการขนส่งทางรถขนส่ง จะมีจำนวนมากถึง 1,000 เที่ยวต่อวัน การขนส่งน้ำมันทางท่อทำให้ ลดปริมาณมลพิษ ทางอากาศลงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งท่อส่งน้ำมัน ของแทปไลน์ ส่งน้ำมันมาจากโรงกลั่น 4 แห่งที่ศรีราชาและระยอง มายังคลังน้ำมันลำลูกกา และคลัง น้ำมันสระบุรี ที่เป็นแหล่งสำรองน้ำมันและศูนย์กลางการจ่ายน้ำมันไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง" นายชุมชนิตรกล่าว
สำหรับพื้นที่การส่งน้ำมันของแทปไลน์ ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของความต้องการ ส่วนที่ เหลือจะเป็นการขนส่งโดยผู้ประกอบการรายอื่นทั้งผู้ประกอบการประเภทท่อส่งน้ำมัน และผู้ประกอบการที่ ขนส่งทางรถบรรทุกน้ำมัน
"แม้ว่ารัฐบาลจะรณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า อุตสาหกรรมน้ำมันยังมีโอกาส เติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่มองว่าน่าจะโตได้อีก 2-3% ในปีหน้า อันเป็นผลสืบ เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะเมื่อมีคนเดินทางมากขึ้น ปริมาณน้ำมันที่ใช้เติมเครื่องบิน ก็จะเพิ่มขึ้นตาม " นายชุมชนิตรกล่าวและว่า แทปไลน์ตั้งเป้าว่า ในปี 2567 การขนส่งน้ำมันทางท่อของบริษัท จะเติบโตขึ้นอีก 20% จาก ปัจจุบันที่มีปริมาณขนส่งอยู่ที่กว่า 14,000 ล้านลิตรต่อปี
สำหรับการดำเนินงานของแทปไลน์ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา นายชุมชนิตรกล่าวว่า เป็นการดำเนินธุรกิจที่คู่ขนานไปกับ
สังคมอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา มั่นใจได้ว่าแทปไลน์กับชุมชนรอบคลังและแนวท่อ มีความสัมพันธ์ที่ดี สิ่งที่สำคัญ อย่างยิ่ง นอกเหนือจากการแบ่งปันและตอบแทนสังคมแล้ว คือการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ ความรู้เรื่องป้ายสัญญลักษณ์ต่างๆ ตามแนวท่อเพื่อป้องกันและแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ เมื่อชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังแนวท่อให้กับแทปไลน์ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งความร่วมมือ ระหว่าง แทปไลน์และชุมชนในลักษณะนี้ จะช่วยส่งเสริมกับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพที่ทางแทปไลน์มี เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชุมชนและสังคมได้อย่างดียิ่ง
" สำหรับกิจกรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของแทปไลน์ จะเน้นในด้านการสาธารณสุข การศึกษา เยาวชน และสิ่งแวดล้อม เพราะนอกจากแทปไลน์จะดำเนินธุรกิจที่มีผลตอบแทนแล้ว เรายังมีจิตสำนึกที่ต้องร่วมแบ่งปัน และตอบแทนสังคม ตลอดเวลาแห่งความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ ก้าวสู่ปีที่ 30 ในปีนี้ เราตั้งเป้าหมายว่า นอกจาก พื้นที่ที่ตามแนวท่อส่งน้ำมันและคลังน้ำมันทั้ง 2 แห่งของแทปไลน์แล้ว เราจะขยายพื้นที่สำหรับ กิจกรรม ด้านสังคม ให้เป็นวงกว้างขึ้น จุดประสงค์เพื่อให้แทปไลน์เป็นที่รู้จักให้มากขึ้น ทั้งนี้หัวใจสำคัญของแทปไลน์ที่ ผู้บริหาร และ พนักงานทุกระดับชั้น ได้รับการปลูกฝังและยึดเป็นวัฒนธรรมของแทปไลน์คือ การดำเนินธุรกิจต้องเป็นมิตร เราอยู่ได้ เขาอยู่ได้ ธุรกิจของเราก็จะ เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป " นายชุมชนิตรกล่าวสรุป
เกี่ยวกับบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด
บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือแทปไลน์ เป็นบริษัทชั้นนำในการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2534 ตามมติคณะรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบการขนส่งน้ำมัน และ ลดปัญหาการจราจรที่เกิดจากการขนส่งน้ำมัน ปัจจุบันแทปไลน์ให้บริการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อใน 3 เส้นทาง ได้แก่
1. ท่อส่งน้ำมันศรีราชา - สระบุรี ด้วยความยาวของท่อ 255 กิโลเมตรมีกำลังการขนส่งสูงสุด 26,000 ล้านลิตรต่อปี
2. ท่อส่งน้ำมันมาบตาพุด - ศรีราชา แทปไลน์ได้ขยายระบบท่อส่งจากศรีราชา ไปเชื่อมต่อยังโรงกลั่นน้ำมัน พีทีที โกลบอล เคมีคอล และโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม ที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด มีความยาวท่อ ประมาณ 67 กิโลเมตรมีกำลังการขนส่งสูงสุด 10,000 ล้านลิตร ต่อปี
3. ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสุวรรณภูมิ แทปไลน์ได้ขยายระบบท่อส่งจากคลังน้ำมันลำลูกกาไปยัง คลังน้ำมันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 38 กิโลเมตร สามารถจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้ถึง 100 ล้านคนต่อปี
แทปไลน์มีคลังน้ำมันสองแห่งที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และที่อำเภอเสาไห้ จังหวัด สระบุรี เป็นแหล่ง สำรองและศูนย์กลางการจ่ายน้ำมันไปยังปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ