ECF กางแผนธุรกิจปี 2563 โฟกัสธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% ชูกลยุทธ์เพิ่มมาร์จิ้น

ศุกร์ ๑๗ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๐:๔๘
บริหารจัดการต้นทุนการขายและการบริหาร ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ปรับโครงสร้างการจัดจำหน่าย เน้นช่องทางที่มีประสิทธิภาพ ขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมพัฒนาสินค้าใหม่ ปั๊มยอดขาย ธุรกิจพลังงาน เดินหน้าศึกษาและเข้าลงทุนโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูง สร้างการเติบโตต่อเนื่อง

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างการเติบโตจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และธุรกิจพลังงาน โดยตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15 % ปรับแผนงานตั้งเป้าเพิ่มอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 4-5 %

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากการขยายตลาดของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งปีนี้จะเห็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งบริษัทมีการวางแผนงานเพื่อบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ประกอบกับควบคุมค่าใช้จ่ายในการเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นสัดส่วนกำไรสุทธิทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากธุรกิจต่าง ๆ ในปีนี้

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีสัญญาณการเติบโตที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ จากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นขยายตลาดกลุ่มลูกค้ารายใหม่ในญี่ปุ่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และจีน ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ ที่มีศักยภาพสามารถสร้างโอกาสการเติบโตของคำสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดคำสั่งซื้อสินค้าที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2563 นี้ อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีศักยภาพอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย

ขณะที่ตลาดในประเทศ บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างการจัดจำหน่าย มุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายในช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆที่มีประสิทธิภาพ อาทิ ผ่านร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีสาขาทั่วประเทศ ล่าสุดสามารถเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านร้านโมเดิร์นเทรดได้อีก 2 ราย ซึ่งแต่ละรายมีโอกาสการเติบโตผ่านการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้เริ่มออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อจำหน่ายในรูปแบบอุปกรณ์ก่อสร้างที่ใช้วัตถุดิบจากไม้ยางพารา เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาที่รับงานติดตั้งให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายของประเทศ ทั้งนี้ บริษัทพยายามรักษาสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 55 % และในประเทศ อยู่ที่ 45 %

สำหรับธุรกิจพลังงานทดแทน ในปีนี้จะเห็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยที่ผ่านมารับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลภาคใต้ขนาด 7.5 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 MW มินบู ประเทศเมียนมาร์ ที่เฟสแรก (50 MW) สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ COD และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรงวดแรกเข้ามาเต็มในไตรมาส 4/62 ส่วนเฟสที่ 2 3 และ 4 อยู่ระหว่างวางแผนเพื่อก่อสร้างให้ครบโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากครบทั้ง 4 เฟส บริษัทคาดการณ์รับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 80 -100 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุน โดยบริษัทจะมุ่งเน้นเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการที่มีผลตอบแทนสูง และจะเน้นการเข้าลงทุนเองเป็นหลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ