นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งโครงการแอมไชน่าทาวน์ เปิดเผยว่า เยาวราชถือเป็นทำเลศักยภาพลำดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งนอกจากจะมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ยังเป็นแหล่งธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนสายมังกรของเมืองไทย จึงทำให้มีดีมานด์สูงทั้งในด้านที่อยู่อาศัย การค้าขาย ตลอดจนเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจมาพักอาศัยอยู่ในย่านนี้เป็นจำนวนมาก ประกอบกับในปัจจุบันการเดินทางมายังเยาวราชได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูใหม่ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเยาวราชได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังที่กล่าวมาล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ศูนย์การค้า "แอมไชน่าทาวน์" จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี และกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านเยาวราชในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
นายกฤษดา กวีญาณ กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งโครงการแอมไชน่าทาวน์ เปิดเผยว่า การเปิดตัวโครงการ "แอมไชน่าทาวน์" ภายใต้แนวคิดอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานสไตล์ Modern Chinese ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเยาวราช เป็นความตั้งใจของเราในการพัฒนาที่ดินในเยาวราชให้เกิดประโยชน์กับชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับย่านเยาวราชโดยรวม โดยเราได้พัฒนาโครงการบนพื้นที่กว่า 40,000 ตร.ม. จากโรงหนังเก่าซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ เราได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับชุมชนในย่านนี้และบริเวณโดยรอบก่อนที่จะเริ่มดำเนินโครงการ ทำให้การก่อตั้งโครงการของเรา ตอบโจทย์ความต้องการและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญกับชุมชน
โครงการ "แอมไชน่าทาวน์" เป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่ให้บริการครบวงจร รายแรกและรายเดียวในย่านเยาวราช ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ศูนย์การค้า แต่ยังมีการรวมเอาทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนทำงานและผู้อยู่อาศัยในชุมชน เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทุกเพศทุกวัย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการศูนย์การค้าของเราแล้วมากกว่า 8,000-10,000 คนต่อวัน และคาดการณ์ว่าเมื่อโครงการเปิดให้บริการครบทุกส่วน จะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 20,000 คนต่อวัน
โครงการ"แอมไชน่าทาวน์" ประกอบไปด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก คือ ส่วนของโรงแรมที่พัก โดยร่วมมือกับโรงแรม "อาศัย" (ASAI) ของเครือโรงแรมระดับโลกอย่างดุสิตธานี โดยให้บริการตั้งแต่ชั้น 4 - 8 ของอาคารศูนย์การค้า ซึ่งเรามั่นใจว่าจะมีอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยมากกว่า 90% ตลอดทั้งปี ตัวโรงแรมออกแบบด้วยแนวคิดที่ต้องการมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์อันมีเอกลักษณ์ของเยาวราช สร้างความเข้าถึงความเป็นท้องถิ่น และให้การบริการที่พร้อมมอบทั้งความผ่อนคลายและสุขภาพดีที่ให้กับผู้เข้าพัก ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบปลอดสารพิษจากสวนผักออร์แกนิค ที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรม ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563
ส่วนที่สอง เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมแบบตกแต่งเสร็จพร้อมอยู่ 8 ชั้น ใช้ชื่อว่า I'm Chinatown Residence ซึ่งเราพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ที่มองหาที่พักอาศัยภายในย่านนี้ เช่น เจ้าของกิจการและผู้ประกอบการที่มีธุรกิจภายในย่าน ซึ่งเราทำการสร้างแล้วเสร็จและปิดการขาย 100% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่วมอบห้องชุดให้กับลูกค้า
ในส่วนของ ศูนย์การค้า เรามีร้านค้าชั้นนำครอบคลุมพื้นที่ 4 ชั้น มีสินค้าและบริการสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารยอดนิยมที่ทันสมัย ร้านอาหารดังและสตรีทฟู้ด ที่มีเสน่ห์ของเยาวราช ศูนย์รวมของฝาก ซึ่งจะทำให้เป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวผู้มาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งร้านค้าที่เข้ามาให้บริการในศูนย์การค้าของเราตอบโจทย์สำคัญของย่าน 2 ส่วน หนึ่งคือ การนำแบรนด์ร้านค้าที่ไม่เคยมีมาก่อนในเยาวราชมาเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับชุมชน และสอง คือการเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าในเยาวราชเข้ามาเปิดบริการในศูนย์เพื่อเป็นการเปิดตลาดและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับหลายๆ ร้านค้าในย่านเอง สุดท้าย ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ อาคารจอดรถ เราเปิดให้บริการพื้นที่จอดรถใต้ดินขนาดใหญ่ 6 ชั้น ซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ ได้ถึง 300 คัน เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่จอดรถที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุดในเยาวราช
สำหรับศูนย์การค้า แอมไชน่าทาวน์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น. โดยปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้เต็ม 100% แล้ว
ในส่วนของชั้น B1 เป็นส่วนของพื้นที่ร้านค้าสะดวกซื้อและร้านบริการ เช่น 7-Eleven, Kerry Express, ร้านขายยา, CleanMate, Kamu, Nara Gem, B'me by Wacoal, Beauty Maker, Vision and Cafe, ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ชื่อดังอย่าง King Kong บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ยากินิคุ และ King Kong Sweets ร้านขนมหวานยอดนิยมต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมี Gourmet Thai ซึ่งเป็นสแตนอโลนช็อปแห่งแรกที่เปิดทำการนอกพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ภายในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยได้คัดสรรรายการสินค้าคุณภาพจาก Gourmet Market สาขา ต่างๆ มาจำหน่ายที่ร้านค้าแห่งนี้ เพื่อให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ
ชั้น G และ ชั้น 2 เป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลากหลาย ทั้งร้านอาหารแนวครอบครัวอย่าง ร้านสุกี้ MK, KFC, Yayoi, Hachiban Ramen และร้านตำมั่ว ร้านอาหารแนวไลฟ์สไตล์ ได้แก่ ร้าน Munchy Bar and Restaurant, Ryo Shi ซูชิบาร์ และ New York 5th Ave. Deli ร้านแซนด์วิชสไตล์อเมริกันระดับพรีเมี่ยมสาขาแรกในกรุงเทพ ร้านเครื่องดื่มของหวานชั้นนำอย่าง Starbucks, Krispy Kreme ร้านโดนัทชื่อดัง, Dairy Queen, Swensen, Jamba Juice, ชานมไข่มุก CoCo, Olino Crepe & Tea, ร้านไอศกรีม Stickhouse และร้านชาผลไม้อันดับหนึ่งของไต้หวันอย่าง Yi Fang ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีศูนย์อาหารซึ่งรวบรวมสตรีทฟูด ชื่อดังจากทั่วกรุงเทพฯ มาให้ได้ลิ้มรสกัน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Wacoal, แว่นท็อปเจริญ, Beauty Station, และ Daiso อีกด้วย
สำหรับชั้น 3 จะประกอบไปด้วยร้านค้าที่เปิดให้บริการด้านสุขภาพและความงาม อย่าง Together Clinic, The Sense Beauty Center, Jetts Fitness ฟิตเนสเต็มรูปแบบแห่งแรกของย่านเยาวราช เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ Let's Relax Spa สปาระดับพรีเมี่ยมแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในย่านเยาวราช ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 ถึงเที่ยงคืน
ถึงแม้ว่าจะเป็นศูนย์การค้าใหม่ในชุมชนนี้ แต่ศูนย์การค้า แอมไชน่าทาวน์ ให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันกับชุมชน ยึดแนวทางในการอนุรักษ์คุณค่าของศิลปะวัฒนธรรมจีนที่มีมาแต่ดั้งเดิมในการออกแบบ และให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เติมเต็ม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในย่านนี้ ตลอดจนผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเยาวราช และด้วยโครงการฯ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT วัดมังกร เพียง 50 เมตร "แอมไชน่าทาวน์" จึงเป็นเสมือนประตูสู่ใจกลางเยาวราชที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน