เทศกาลบางกอกแหวกแนวปีนี้จัดตรียมกิจกรรมมากกว่า 50 กิจกรรมตลอดสุดสัปดาห์ อาทิ การเสวนา เวิร์คชอป กิจกรรมสาธิต กิจกรรมสำหรับเด็ก นิทรรศการ การฉายภาพยนตร์กลางแจ้ง การแสดง ดนตรี และการออกร้าน โดยมีทั้งกิจกรรมภาษาไทยและอังกฤษที่นำโดยวิทยากรชาวไทยและชาวต่างชาติ กับเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ในหัวข้อที่กำลังเป็นที่สนใจ ทั้งเรื่องโลกร้อน สิทธิสตรีและ LGBTQI+ การบริหารจัดการขยะ การบริหารจัดการน้ำ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ธุรกิจเพื่อสังคม กระแสแฟชั่นที่กำลังได้รับความสนใจกับสิ่งแวดล้อม ฯลฯ นอกจากกิจกรรมเสวนาถึงสองห้องแล้ว ยังมีเวทีเปิดตัวหนังสือที่เหล่านักเขียนจะมาเล่าถึงหนังสือใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือวิชาการ สารคดี ไปจนถึงนวนิยาย
ในส่วนของกิจกรรมเวิรค์ชอปนั้นมีกิจกรรมสำหรับผู้ที่มีความสนใจหลากหลาย อาทิ เวิร์คชอป การเขียนโดยนักเขียนชื่อดัง เวิร์คชอปงานประดิษฐ์จากของเหลือใช้ การแปรรูปเสื้อผ้าเก่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น และยังมีพื้นที่กลางแจ้งที่จัดทำการสาธิตต่างๆ ทั้งสาธิตทำบาล์มอเนกประสงค์ ทำอาหารสำหรับเด็ก และอาหารวีแกน มีพื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็กที่นำโดยมิวเซียมสยามและห้องสมุดเนียลสัน เฮย์อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ To What Degree? ที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน และยังมีพื้นที่ Social Edge ที่องค์กรเพื่อสังคมกว่าสิบองค์กรที่มาร่วมจัดกิจกรรม ที่มุ่งสร้างนิยามใหม่ให้การมีส่วนร่วมของผู้คนต่อโลกใบนี้
ทางด้านกิจกรรมสันทนาการภาคกลางคืนนั้นมีทั้งการฉายภาพยนตร์ และการแสดงดนตรีโดยศิลปิน แถวหน้าอย่างฮิวโก้ ภูมิ วิภูริศ หลิว อาจารียา พรหมพฤษ์ และฮาย อาภาพร นครสวรรค์ โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ สามารถเข้าร่วมได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญอันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก คือการเปิดให้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่จักรพงษ์วิลล่าและ ทัวร์บริเวณด้านในตำหนัก โดยจำหน่ายบัตร Chill Pass ราคา 300 บาทสำหรับเข้ามาพักผ่อนและดื่มด่ำ บรรยากาศภายในพื้นที่จักรพงษ์วิลล่าตลอดสุดสัปดาห์ และบัตรราคา 500 บาทสำหรับท่านที่ต้องการ ลงทะเบียนทัวร์ด้านในตำหนักด้วย (ซื้อบัตรและลงทะเบียนล่วงหน้า) ทั้งนี้เทศกาลบางกอกแหวกแนวร่วม รณรงค์ให้ผู้เข้าชมงานนำภาชนะมาใส่เครื่องดื่มและอาหารเอง รวมทั้งงดใช้หลอดและพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ทุกประเภทเพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ
ทั้งนี้หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ผู้อำนวยการเทศกาลได้กล่าวสรุปแนวคิดและเชิญชวน ให้พี่น้องประชาชนเข้าร่มชมเทศกาลครั้งนี้ว่า "เทศกาลบางกอกแหวกแนวเป็นการผสมผสานความสนุกสนาน ในแบบงานวัดเข้ากับการตั้งคำถามถึงแนวคิดต่างๆ ที่เป็นความท้าทายของนักคิดนักเขียนทั้งหลาย ทุกท่านสามารถมาลองทำอะไรใหม่ๆ ในกิจกรรมเวิร์คชอป รับประทานอาหารอร่อยๆ ฟังดนตรีไพเราะ หรือเรียนรู้แลกเปลี่ยนทัศนะหลากหลายหัวข้อ จากเรื่องโลกร้อน ภูมิศาสตร์การเมืองโลก LGBTQI+ ไปจนถึงนวนิยายเกี่ยวกับประเทศไทย โดยเทศการบางกอกแหวกแนวครั้งที่ 3 นี้จะมีขึ้นในวันเสาร์อาทิตย์ที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ มิวเซียมสยาม และจักรพงษ์วิลล่า ตั้งแต่เวลาเที่ยงจนถึงห้าทุ่ม ให้เทศกาลบางกอกแหวกแนว เปลี่ยนวันหยุดสุดสัปดาห์ธรรมดาๆ ให้มีความหมาย ท้าทายความคิด และมีคุณค่า ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วม กิจกรรมในเทศกาลบางกอกแหวกแนวครั้งที่ 3 นี้กันค่ะ"
พบกับ "บางกอกแหวกแนว 2563" เทศกาลสุดท้าทายทาความคิดแห่งยุคสมัย วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลาเที่ยงถึงห้าทุ่ม ณ มิวเซียมสยาม และจักรพงษ์วิลล่า (สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ใต้ดิน สถานีสนามไชย ทางออกมิวเซียมสยาม)
กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ในเทศกาลบางกอกแหวกแนว 2563 (1-2 กุมภาพันธ์ 2563)
- คอนเสิร์ตสองคืนสองสไตล์ โดยพบกับฮิวโก้และภูมิ วิภูริศในคืนวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ และพบกับ หลิว อาจารียา พรหมพฤกษ์และฮาย อาภาพร นครสวรรค์ในคืนวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์
- เปิดตัวประติมากรรมจากขยะและสิ่งของเหลือใช้ โดย WISHULADA
- เสวนาโดยนักเขียนชื่อดังจากต่างประเทศ นำโดย Peter Frankopan อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย ออกซ์ฟอร์ด เจ้าของผลงานหนังสือเล่มล่าสุด The New Silk Roads: The Present and Future of the World หนังสือที่แสดงอีกแง่มุมหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก หนังสือของเขานั้นได้รับการแปลเป็นภาษา ต่างประเทศมากกว่า 50 ภาษา Frank Dikotter อาจารย์ประจำภาควิชามนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ฮ่องกง เจ้าของผลงานหนังสือเล่มล่าสุด How to be a Dictator: The Cult of Personalities in the Twentieth Century ที่ศึกษาลักษณะอุปนิสัยของผู้นำในประวัติศาสตร์โลก Anna Fifield หัวหน้า สำนักงานกรุงปักกิ่งของหนังสือพิมพ์ The Washington Post เจ้าของผลงานหนังสือ The Great Sucessor: The Secret Rise and Rule of Kim Jong-Un ที่เปิดเผยแง่มุมชีวิตของผู้นำที่มีคน รู้เรื่องราวน้อยที่สุด นักกิจกรรม Natalie Isaacs ซีอีโอขององค์กร 1 Million Women เจ้าของผลงาน หนังสือ Every Woman's Guide to Saving the Planet.
- เสวนาโดยนักคิด นักเขียนและนักกิจกรรมชาวไทย อาทิ นันทิชา โอเจริญชัย ผู้ก่อตั้ง Climate Strike Thailand มณฑล จิรา ผู้ร่วมก่อตั้งเทศกาล Wonderfruit นภ พรชำนิ ศิลปินและซีอีโอLIFEiS Group ปฎิพัทธิ์ ชัยภักดี ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dry Clean Only วรนัย วาณิชกะ คอลัมนิสต์นักวิจารณ์ การเมืองและสังคม
- กิจกรรมเวิร์คชอปการเขียนนวนิยายแนวสืบสวนภาษาอังกฤษโดยนักเขียนชื่อดัง Christopher G. Moore ผู้มีผลงานตีพิมพ์หลายสิบเรื่อง
- กิจกรรมเวิร์คชอปการเขียนเกี่ยวกับ features in newspapers เป็นภาษาอังกฤษโดยก้อง ฤทธิ์ดี คอลัมนิสต์ชื่อดัง
- ศิลปะการแสดงชุด Landlocked โดย Jay Carlon ศิลปินชาวอเมริกันร่วมกับ Bangkok City Ballet Jay Carlon นั้นเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นศิลปินประจำที่กรุงเทพฯ ภายใต้โครงการนำโดย Creative Migration และจะแสดงในเทศกาลบางกอกแหวกแนวเป็นที่แรกในเมืองไทย
- เปิดตัวหนังสือ Very Bangkok หนังสือเล่มใหม่ของ Philip Cornwel-Smith เจ้าของผลงานหนังสือ Very Thai ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเมื่อตีพิมพ์ในปี 2548
- การฉายภาพยนตร์สั้น Mekong 2030 ภาพยนตร์สั้นห้าเรื่องจากผู้กำกับห้าสัญชาติในประเทศ ลุ่มแม่น้ำโขง ที่สื่อสารภาพอนาตของแม่น้ำโขงในอีกสิบปีข้างหน้าในแบบฉบับของตัวเอง โดยเทศกาลภาพยนตร์หลวงพระบาง
- นิทรรศการ To What Degree? นิทรรศการชั่วคราวโดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แคนนาดา (สนับสนุนโดยสถานทูตแคนนาดาแห่งประเทศไทย
- พื้นที่ Social Edge ที่รวมองค์กรเพื่อสังคมกว่าสิบองค์กร อาทิ Precious Plastic, Fashion Revolution, Na Cafe, Scholar of Sustenance, Love Wildelife ฯลฯ ให้ผู้เข้าชมได้ร่วมกิจกรรมที่ สนุกสนานและมีประโยชน์ เช่น การทำผ้าคราม การแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว เป็นต้น
กิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทศกาลบางกอกแหวกแนวเท่านั้น ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ในสุดสัปดาห์ที่ 1-2 กุมภาพันธ์ที่มิวเซียมสยามและจักรพงษ์วิลล่ารอคอยทุกท่านอยู่
เทศกาลบางกอกแหวกแนวจะไม่สามารถจัดขึ้นได้เลยหากไม่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากมิวเซียมสยาม และโรงเรียนราชินี รวมทั้งการสนับสนุนจากสิงห์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทสวนกวางตุ้ง ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทสวนกวางตุ้ง ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สถานทูตแคนนาดา สถานทูตโปรตุเกส สถานทูตออสเตรเลีย Open Society Foundation บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แคทเรดิโอ ฮักเรดิโอ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) The Peninsula Bangkok, The Sukhothai Bangkok และโรงพยาบาลเจ้าพระยา รวมทั้งพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนเนื้อหาของกิจกรรม