เป็นการพัฒนาก้าวสำคัญของประเทศไทย สำหรับความร่วมมือในรูปแบบนี้ โดยนับเป็นครั้งแรก ที่ LINE ได้เปิดตัวบริการใหม่ ซึ่งมิได้เกิดจากทีมพัฒนาแอปพลิเคชันภายในของ LINE แต่เป็นการรวมแพลตฟอร์มให้บริการจากพาร์ทเนอร์เข้าบน LINE MAN ซูเปอร์แอป
นายเกียม ซาการ์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแฮปปี้เฟรช กล่าวว่า "ด้วยกลยุทธ์ความร่วมมือระหว่าง LINE และ HappyFresh ในการรวมบริการเข้าสู่แอปพลิเคชัน LINE MAN จะเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยให้กับ HappyFresh ในขณะที่ LINE สามารถพัฒนาและขยายฐานบริการรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่"
HappyFresh มีบทบาทเป็นทั้งผู้จัดเตรียมเชิงเทคโนโลยีด้านแพลตฟอร์มในการช้อปของสดของใช้ พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังผู้ให้บริการเพื่อส่งสินค้าถึงผู้บริโภคให้กับ LINE ซึ่งหมายความว่าแพลตฟอร์ม HappyFresh จะถูกรวมเข้ากับแอปพลิเคชัน LINE MAN เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ครบครันยิ่งขึ้น
ในยุคสมัยที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของแต่ละคนเต็มไปด้วยแอปพลิเคชันมากมาย ความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะช่วยสร้างความสะดวกสบาย และทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อของสดของใช้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN ที่ติดตั้งและใช้งานอยู่เป็นประจำแล้ว ซึ่งตอกย้ำความเป็นซูเปอร์แอป ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อผู้ใช้งานกดสั่งออเดอร์ ทาง HappyFresh จะควบคุมดูแลทั้งด้านการหยิบสินค้า ณ ร้านค้าที่ต้องการ ผ่านพนักงานเลือกสรรสินค้าที่ถูกฝึกอบรมจนได้รับมาตรฐาน จวบจนบริการจัดส่งสินค้าสู่ผู้บริโภค ในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะที่ HappyFresh เองก็ยังคงมุ่งมั่นให้บริการคัดสรรและจัดส่งของสดของใช้ที่มีคุณภาพผ่านแอปพลิเคชั่น HappyFresh ต่อไป
"การจับมือกันในฐานะพันธมิตรครั้งนี้ HappyFresh มีส่วนช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านบริการช้อปและจัดส่งของสดของใช้ให้กับลูกค้า LINE เพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งหากปราศจากความร่วมมือในครั้งนี้แล้ว จำเป็นต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาลและระยะเวลาในการพัฒนาเพื่อให้ได้บริการที่เป็นเลิศ ในขณะที่ LINE ซึ่งถือเป็นผู้นำตลาดและมีบทบาทในการสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งให้กับตลาดในประเทศไทย จะช่วยผลักดันด้านการตลาด เพื่อขยายบริการไปสู่ฐานผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE MAN ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบ Hyperlocal Marketing ผนวกกับความต้องการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคในครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการช้อปและจัดส่งของสดของใช้ออนไลน์ และต่อยอดสู่วิสัยทัศน์ในระยะยาวที่ต้องการให้บริการทุกครัวเรือนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น" นายซาการ์ร่า กล่าวเสริม