พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและถือเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติเป็นต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะในระยะ 1 – 2 เดือนข้างหน้า พื้นที่ภาคเหนือมักประสบปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งส่งผลกระทบแก่ประชาชนในพื้นที่ กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบบัญชาการเหตุการณ์ ภายใต้แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 เป็นกลไกหลักในการบูรณาการในมิติเชิงพื้นที่ ขณะนี้ 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ แพร่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง ลำพูน น่าน พะเยา และเชียงราย ได้เตรียมพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองอย่างเต็มกำลังโดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เป็นศูนย์กลางในการบูรณาการการทำงานร่วมกันในพื้นที่ พร้อมดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ตามแผนเผชิญเหตุของแต่ละพื้นที่อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เน้นมาตรการป้องกันและลดแหล่งกำเนิดมลพิษ ทั้งบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเผาอย่างเคร่งครัด ประกาศพื้นที่และห้วงเวลาห้ามเผา จัดทำแนวกันไฟ จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นจริงจังในการลดปริมาณและการกระจายของฝุ่นละอองในพื้นที่
พลเอก อนุพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ได้กำชับให้ทุกจังหวัดปรับแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัญหาแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนในการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ กับภาครัฐ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวให้ได้มากที่สุด