นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทย และไทยสมายล์ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ เป็นผู้รับผิดชอบในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งประสานงานหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก โดยในส่วนของหน่วยงานภายใน ประสานให้แต่ละฝ่ายดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และประสานกับหน่วยงานภายนอก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในการติดตามการออกมาตรการต่างๆ เพื่อนำมาตรการมาดำเนินการปฏิบัติ รวมทั้งสรุปรายงานผลการดำเนินการให้ฝ่ายบริหารรับทราบอย่างต่อเนื่อง สำหรับมาตรการหลักของการบินไทยจะคำนึงถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารและการดำเนินการด้านสุขลักษณะ เพื่อให้มีการรักษาความสะอาดสูงสุด ในการให้บริการทั้งบนเครื่องบิน และการบริการภาคพื้น ได้แก่ มาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก และมาตรการการรักษาความสะอาดในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น
- สังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ หากพบว่ามีอาการบ่งชี้ ให้รายงานต่อแพทย์ประจำสนามบินเพื่อตรวจดูอาการ และยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง
2.มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน
- พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในการบริการบนเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง
- ให้บริการโดยไม่ให้ผู้โดยสารจับต้องเครื่องมืออุปกรณ์บริการอาหาร
- เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องน้ำระหว่างเที่ยวบิน
- จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารที่มีอาการสวมใส่บนเครื่อง
- สังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง
3.มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค
- การอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสาร และห้องนักบินในทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมาจากประเทศจีนทั้งหมด และพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
- ระยะเวลาในการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน โดยเริ่มจากลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที โดยเป็นการพ่นยา 15 นาที และอีก 30 นาที เป็นการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้อ
- การกรองอากาศด้วย HEPA FILTER
4.มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยานมามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
- ทำความสะอาด Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วม แบ่งตามพื้นที่เป็น 5 ส่วน ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat Pocket) บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป (Aircraft Interior Cabin) ที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat) ครัว (Galley) และห้องน้ำ (Toilet) โดยมีวิธีดำเนินการ ดังนี้
1.พนักงานต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน (หน้ากาก/ถุงมือ) อย่างเคร่งครัด
2.มัดปากถุงให้แน่นหนา ก่อนนำขยะลงจากเครื่องและทิ้งในจุดที่กำหนด
3.หลังจากปฏิบัติงานต้องล้างมือด้วยสบู่/เจลล้างมือ ทุกครั้ง
5.มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
- เผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องลักษณะของโรค และการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
- จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พนักงาน
- ให้ทำการตรวจสุขภาพหากพบพนักงานมีอาการต้องสงสัย ตามความเห็นแพทย์ และให้หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ
6.มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
- ตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน
- หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง
- จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค
7.มาตรการด้านโภชนาการ
- จัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP
- ดำเนินการผลิตภายใต้ระบบประกันคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร HACCP, GMP, HALAL
- เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตและบริการทุกชิ้นผ่านการทำความสะอาดและพาสเจอไรซ์
- ผ้าที่ให้บริการในเที่ยวบินผ่านการซักอบรีด อย่างถูกสุขลักษณะ
ทั้งนี้ การบินไทยและไทยสมายล์ ได้ติดตามประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป