อว.สั่งการดูแล 58 นักศึกษาไทยในอู่ฮั่นให้ดีที่สุด

พฤหัส ๓๐ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๑:๐๐
อว.สั่งการดูแล 58 นักศึกษาไทยในอู่ฮั่นให้ดีที่สุด พร้อมเดินหน้าทำงานวิจัยเชิงรุกติดตามเชื้อไวรัสสร้างยารักษาโรคและวัคซีน มั่นใจไวรัสโคโรน่าไม่ระบาดในไทย ชี้สิ่งน่ากลัวกว่าไวรัสคือไวรัลในโลกโซเชียล หวั่นสร้างความตื่นตระหนกเกินจริง

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดเผยในที่ประชุมระดมสมองเพื่อนำองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยมาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโรน่า ว่า การประชุมระดมสมองในวันนี้ เป็นการรวบรวมแพทย์และอาจารย์ รวมทั้งนักวิจัย จากมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยในประเทศไทย กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำข้อมูล องค์ความรู้ด้านการวิจัยทางการแพทย์มาใช้ในการป้องกัน แก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า และโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยได้อีกในอนาคต โดย อว. สามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าว มาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ และเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปเกิดความตระหนัก โดยไม่ตระหนกจนเกินความเป็นจริง และเตรียมพร้อมรับมือ โดยสิ่งที่น่ากลัวกว่าไวรัสคือไวรัล เนื่องจากปัจจุบันพบว่าข้อมูลในโลกโซเชียล มีการปลุกกระแสลุกลามจนหน้ากลัวกว่าความเป็นจริง

นอกจากนั้น อว. ยังพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า และโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ อว. ยืนยันให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการจัดตั้งวอร์รูมที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งได้สั่งการให้เดินหน้าในการการวิจัยเชิงรุกเรื่องนี้ต่อไป ทั้งเรื่องของความรู้พื้นฐาน การติดตามเชื้อโรคกลายพันธ์ การวินิจฉัย ยารักษาโรค ไปจนถึงการสร้างวัคซีน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว

สำหรับนักศึกษาไทยและคนไทยทุกคนที่อยู่ในประเทศจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศ โดยขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งมีนักศึกษาไทยจำนวน 58 คน ใน 12 มหาวิทยาลัย โดยจากการรายงานล่าสุดจากนักศึกษาไทยในอู่ฮั่นแจ้งว่า มีการจัดตั้งกลุ่มสื่อสาร (WeChat) ของนักศึกษาไทยและคนไทยในอู่ฮั่น โดยมีเจ้าหน้าที่กงสุล และ สถานเอกอัครราชทูตอยู่ในกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ สถานที่ซื้ออาหาร โดยทุกคนยังมีอาหารและน้ำดื่มเพียงพอประมาณ

2 สัปดาห์ ทั้งนี้ บางมหาวิทยาลัยมีการจัดอาหาร เครื่องดื่มสมุนไพร และหน้ากากให้แก่นักศึกษา รวมทั้งมีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิเมื่อเข้าออกหอพัก และขอให้นักศึกษาไม่ออกจากหอพักหากไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนอพยพนักเรียนไทย หากได้รับอนุญาตจากทางการจีนก็จะสามารถทำการอพยพตามแผนได้ทันที

รายงานข้อมูลจาก สำนักปลัด กระทรวง อว. แจ้งว่ามีการตรวจสอบนักศึกษาจีนที่ศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาของไทย จำนวน 87 สถาบัน แบ่งเป็นภาครัฐ 52 สถาบันและเอกชน 35 สถาบัน รวมกว่า 11,738 คน ซึ่งเราได้มีการออกมาตรการต่างๆ รวมทั้งการยืดเวลาเปิดเทอมออกไป และออกมาตรการตามหลักสากลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

สำหรับกรณีข่าวนักศึกษาล่ารายชื่อร้องเรียนสถาบันอุดมศึกษาที่เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาถ่ายรูปท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดหอพักของนักศึกษาเป็นโรงแรมหรือห้องพักรายวัน จนเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี ขณะนี้รัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ แต่สิ่งที่ห่วงคือการเปิดสถาบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวอาจจะขัดกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ในเบื้องต้นได้มีการสั่งการให้ชี้แจงภายใน 7 วัน อย่างไรก็ดี หากไม่ทำตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกระทรวงจะดำเนินการตามกฎหมาย

"ขีดความสามารถของกระทรวงสธ. และองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัยและคณะแพทย์ศาสตร์สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี แต่ขอย้ำว่าจะต้องใช้ความเข้าใจตามหลักวิทยาศาสตร์และรู้เท่าทัน และ อว. ยืนยันให้ความร่วมมือกับกระทรวงสธ. ในการจัดตั้งวอร์รูมที่กระทรวงสาธารณสุข และที่สำคัญจากนี้ไปเราจะทำการวิจัยเชิงรุกในทุกด้านต่อไป"

ด้านนายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองปลัดกระทรวงการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่อยู่ในสถานการ์ระบาดของไวรัสโคโรน่า เนื่องจากยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนในประเทศไทย โดยเคสที่พบในระบบสาธารณสุขของไทย คือ เกิดจากการติดจากมาประเทศจีนเท่านั้น และทางองค์การอนามัยโรคยังไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข มีเพียงการประชุมว่าใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น และการระบาดเกิดขึ้นในประเทศเดียว เคสที่เกิดขึ้นเป็นการติดจากประเทศจีนเท่านั้นจึงยังไม่ถือเป็นการะบาดใหญ่ อีกประการที่เกิดการเข้าใจผิดว่าเชื้อไวรัสสามารถติดต่อได้ทางอากาศ แต่ความจริงคือจะสามารถติดต่อได้ผ่านการไอ จามเท่านั้น จึงสามารถป้องกันตัวเองได้การกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ โดยผู้ที่มีอาการป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องด้วยการให้สีเขียวอยู่ด้านนอก เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อโรคสู่คนอื่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO