กองทุน FLR349 ผนึกกำลังกลุ่มเซ็นทรัลและธกส.ขับเคลื่อนฟื้นระบบอาหารเพื่อท้องถิ่น (Local Food) บูมตลาดเกษตรอินทรีย์เพื่อจูงใจเกษตรกรให้ปรับเปลี่ยนเกษตรเชิงเดี่ยวรุกป่าเผาไร่ในพื้นที่ต้นน้ำสู่ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง

ศุกร์ ๓๑ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๖:๑๕
องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF-Thailand) บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล (Central Group) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงนามข้อตกลงผนึกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนกองทุน "FLR349" ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง น้อมนำศาสตร์พระราชาเป็นโมเดลแก้ปัญหาวงจรหนี้สินเกษตรกรและปัญหาระบบนิเวศป่าต้นน้ำถูกทำลาย โดยข้อตกลงนี้เป็นการเน้นสร้างความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งผ่านการสร้างระบบอาหารเพื่อท้องถิ่น Local Food การพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าและพัฒนาตลาดรับซื้อ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคทั้งในท้องถิ่นและในประเทศ ตั้งเป้าฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 50,000 ไร่ ภายใน 10 ปี ชุบชีวิตเกษตรกรภาคเหนือและขยายผลสู่ทั่วประเทศ

FLR349 เป็นโมเดลที่นำการขับเคลื่อนรูปแบบการบริโภคและผลิตที่ยั่งยืน (sustainable consumption and production patterns) มาใช้แก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวรุกป่าใช้เคมีสูง และปัญหาหมอกควันจากการเผาไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ (Forest Landscape Restoration) พัฒนาระบบอาหารเพื่อท้องถิ่น (Local Food) และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีองค์กรจากภาคประชาสังคมและภาค เอกชน เป็นผู้ริเริ่มในปี พ.ศ. ๒๕๖๑

"ปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่แจ่ม และจังหวัดน่าน อำเภอนาน้อย ซึ่งได้ดำเนินการรวมไปแล้ว 400 ไร่ จำนวนประมาณ 83,000 ต้น และส่งเสริมให้เกษตรกรยุติการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และเผาตอซังในพื้นที่ป่าต้นน้ำไปแล้ว 1,500 ไร่ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการจำนวน 1,370 ครัวเรือน โดยการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะด้านการสนับสนุนผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์จากผู้บริโภคและตลาดรองรับ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสำคัญให้เกษตรกรมีความมั่นใจมาทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนมากขึ้น" นายพลาย ภิรมย์ ผู้จัดการโครงการบริโภคและผลิตที่ยั่งยืน องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) กล่าว

"ภายในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือเพื่อเตรียมพร้อมรองรับเกษตรกรที่จะมีจำนวนมากขึ้น นอกจากการสนับสนุนความรู้และการจัดการการห่วงโซ่อุปทานแล้ว ยังมีการสนับสนุนด้านสินเชื่อและงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรจาก ธกส. ในการปรับเปลี่ยนสู่ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และส่วนในด้านการตลาดนั้น จะมีกลุ่มเซ็นทรัลเป็นพี่เลี้ยงด้านตลาดรับซื้อ ร่วมกับบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคมและสหกรณ์ชุมชนต่าง ๆ มีการพัฒนาระบบห้องเย็นเพื่อรักษาคุณภาพ และจุดกระจายสินค้าเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทั่วไปในท้องถิ่น รวมถึงโรงเรียน ร้านอาหารและโรงแรม เป็นต้น" นายรัฐภัทร์ ศรีจันทร์กลัด เลขาธิการ FLR349 กล่าว

"กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน พัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่กำลังเป็นเรื่องเร่งด่วนของทุกคน กองทุน FLR349 เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กลุ่มเซ็นทรัลให้การสนับสนุนในหลายด้าน ทั้งการเป็นพี่เลี้ยงด้านการตลาดรับซื้อและพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์จากโครงการ และการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต โดยเรามีเป้าหมายร่วมกันคือการฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพที่มั่นคงของเกษตรกร และการขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืนผ่านการสนับสนุนการทำเกษตรกรรมอินทรีย์" คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากการลงนามบันทึกข้อตกลงแล้ว ทางกลุ่มเซ็นทรัลยังได้มอบทุนสนับสนุนสร้างโรงเรือนเพาะปลูกให้แก่สหกรณ์นิคมแม่แจ่ม ตำบลกองแขก หมู่บ้านโหล่ปง จำนวน 3 โรงเรือน เพื่อเป็นต้นแบบการทำเกษตรอินทรีย์และการเพาะกล้าพันธุ์ไม้สำหรับเกษตรกรอำเภอแม่แจ่มที่ร่วมในโครงการ

เกี่ยวกับกองทุน FLR349

กองทุน "FLR349" เป็นกองทุนที่น้อมนำศาสตร์พระราชา การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และการสร้างห่วงโซ่คุณค่าซึ่งเป็นโมเดลให้กับเกษตรกรในพื้นที่ป่าต้นน้ำ กองทุน FLR349 จะเป็นเสมือนพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนการวิธีการทำเกษตรจากการทำพืชเชิงเดี่ยวรุกป่าใช้เคมีสูง สู่การทำเกษตรกรรมแบบบูรณาการ โดยปลายทางจะนำมาซึ่งการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจากการแผ้วถางทำลายหน้าดิน ผ่านการปลูกและดูแลไม้ป่าถาวร ปลูกไม้ผล และพืชผัก สมุนไพรนานาชนิดแบบผสมผสาน เกื้อกูลฟื้นฟูสร้างระบบนิเวศ และเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน น้ำ และเอื้อต่อการผลิตอาหารที่หลากหลายและปลอดภัยต่อการผลิตและบริโภค เป็นการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชนในการพึ่งพาตัวเอง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการยังชีพและสุขภาวะที่ฟื้นคืนกลับมา ซึ่งจะทำให้สามารถก้าวพ้นจากวงจรหนี้สินและการถูกเอาเปรียบเชิงโครงสร้างของระบบทุนนิยมในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งถือได้ว่าเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs)

ดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่ http://www.wwf.or.th/en/scp/reforestation_activity/flr_349/

เกี่ยวกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เป็นหนึ่งในองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดระดับโลกที่มุ่งมั่นทำงาน และอุทิศเพื่องานด้าน การอนุรักษ์ ปัจจุบัน WWF มีผู้สนับสนุนมากกว่า 5 ล้านคนจากทั่วโลกและเครือข่ายขององค์กรทำงานร่วมกันในกว่า 100 ประเทศ พันธกิจของ WWF คือการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาวะธรรมชาติของโลกในเชิงลบ และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของโลก ที่มีมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างมีความสมดุลด้วยการอนุรักษ์สภาพชีววิทยาที่หลากหลาย และมุ่งทำงานเพื่อรักษา ทรัพยากรด้านพลังงานให้ถูกนำกลับมาใช้งานอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมทั้งสนับสนุนการทำงานเพื่อหยุดยั้งมลพิษและการบริโภค ที่เกินพอดี สามารถศึกษาข้อมูลการทำงานของเราเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wwf.or.th/

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ