BEAUTY กางแผนธุรกิจปี 2563 ยกระดับสู่การเป็น International Beauty & Health Business

พุธ ๐๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๐๙:๕๙
BEAUTY กางแผนธุรกิจปี 2563 ยกระดับสู่การเป็น International Beauty & Health Business ชู 3 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจ เพิ่มความสามารถการทำกำไร ขยายตลาด 15 ประเทศ พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในจีน ด้านตลาดในประเทศ ขยายช่องทางจัดจำหน่าย Consumer Product ปั๊มยอดขาย ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิ 15 %

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบาย International Beauty & Health Business เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าภายใต้การจำหน่ายของบริษัทเข้าสู่การเป็นแบรนด์ด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและแผนการดำเนินงานของบริษัทจะมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย

1. เพิ่มความสามารถการทำกำไร (Strengthening profitability both domestic and overseas business) : โดยมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไรจากช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ

2. ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก (Overseas: Cultivating and expanding overseas business) จำนวน 16 ประเทศ โดยมี 13 ประเทศที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในปี 2562 ซึ่งจะเน้นการทำการตลาดร่วมกันและเพิ่มจำนวน SKUs สินค้า และมีอีก 5 ประเทศหลักที่เน้นการทำการตลาดเฉพาะในปี2563 มีแผนจะ-พัฒนาช่องทางการตลาดและการขายเข้มข้น คือ ประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย Product Distributor ,Shop Licence , Shop in Shop หรือ Counter sales

ขณะเดียวกันบริษัทเน้นการรุกตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน(Mainland China)ต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนศึกษาการสร้างฐานธุรกิจในประเทศจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาด และเพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่และการบริหารจัดการตลาดในประเทศจีน เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีโอกาสทางธุรกิจสูง อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป ( General Trade )เช่น คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ที่เป็นอีคอมเมิรซ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการขาย -นอกจากนั้นได้ขยายจำนวนสินค้าใหม่ๆเข้าไปจำหน่ายในช่องทาง Cross Border E-Commerce อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 Platforms และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มจำนวน Platform อีกต่อเนื่อง

3. ตลาดในประเทศมุ่งเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าอุปโภค และสร้างความเข้มแข็งช่องทางร้านค้าปลีก (Domestic : Expanding distribution channels for Consumer Products and improving retail business) ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆที่มีโอกาสเติบโตสูงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ที่ไม่จำกัดเฉพาะร้านสาขา พร้อมขยายกลุ่มสินค้าอุปโภค (Consumer Product) และสินค้าสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะพัฒนาสินค้าด้านสุขภาพร่วมกับผู้ผลิตสินค้าชั้นนำด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อเปิดช่องทางจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ช่องทางร้านค้าปลีก (Retail Business Models) มุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการเติบโตสาขาที่มีศักยภาพ พัฒนาปรับปรุงและสร้างความเข้มแข็งให้ช่องทางร้านค้าปลีก พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารร้านค้าปลีกเน้นการทำการตลาดได้ด้วยตัวร้านค้าปลีกเอง (Local Store Marketing) ,สร้างโมเดลการขายสินค้าที่เป็นสินค้า Multi Brand เข้ามาจำหน่ายในร้าน Beauty Buffet เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุม ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 311 สาขา

ช่องทางอีคอมเมิร์ซ( E-Commerce) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายรุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O และพันธมิตร รวมถึงพัฒนาระบบรองรับพฤติกรรมการจับจ่ายผ่านมือถือของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด

มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหลัก- (Product Driven) ขับเคลื่อนยอดขายให้เติบโตโดยการสร้าง Product Heros ที่มีกระแสดึงดูดลูกค้าทั้งสินค้าเดิมที่มีอยู่แล้วและสินค้าใหม่ เน้นสินค้าที่เป็นอินโนเวชั่นตามเทรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จากการดำเนินงานในปี 2562 ถือเป็นการปรับธุรกิจตามยุทธศาสตร์ใหม่ บริษัทได้พัฒนาตลาด วางรากฐานช่องทางในตลาดต่างประเทศ ,สินค้ากลุ่มอุปโภค รวมถึงการวางแนวทาง E-Commerce ชัดเจนเพื่อเป็นฐานการขยายตลาดในปี 2563 และสำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพและผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ BEAUTY วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ