กองทุนบัวหลวงแนะนำนักลงทุนให้ขยายโอกาสลงทุนผ่านกองทุนผสม B-INCOME คือ คำตอบในการหารายได้และเป็นทางเลือกเพื่อรับมือในภาวะดอกเบี้ยต่ำ

ศุกร์ ๐๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๕:๑๖
กองทุนบัวหลวงแนะนำผู้ที่เคยลงทุนในตราสารหนี้อย่างเดียว ให้ขยายโอกาสการลงทุนผ่านกองทุนผสม ซึ่งกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม โดย 'B-INCOME' คือ คำตอบในการหารายได้และเป็นทางเลือกเพื่อรับมือในภาวะดอกเบี้ยต่ำ

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำต่อเนื่อง จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา เพิ่งมีมติเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หรือจากเดิม 1.25% มาอยู่ที่ 1% ต่อปี นอกจากนี้ สถานการณ์แวดล้อมในการลงทุนก็มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มากขึ้น

ทั้งนี้ หากนักลงทุนท่านใดเคยลงทุนผ่านตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว อาจจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนลดลงไปอีก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ดังนั้น หากนักลงทุนมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็อาจยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้วยการขยายโอกาสในการลงทุนผ่านกองทุนผสม ซึ่งกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาในการกระจายลงทุนเอง

กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในเวลานี้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีหลากหลายประเภท ที่สามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอ เน้นโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฟ้อ เพื่อรักษาอำนาจการซื้อของผู้ลงทุน โดยลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ ได้แก่ ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)

"ในอีกด้านของความไม่แน่นอน ก็คือ โอกาส ดังนั้น เราจึงควรลงทุนอย่างต่อเนื่อง (Staying invested) แม้ในยามที่ผันผวน แต่ขณะเดียวกันก็ควรปรับพอร์ตลงทุนให้กระจายตัวในสินทรัพย์หลากหลายประเภท กองทุน B-INCOME คือ หนึ่งในคำตอบในการหาโอกาส และเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์" กรรมการผู้จัดการ กล่าว

สำหรับกองทุน B-INCOME จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 จากข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 กองทุนนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9,977.97 ล้านบาท โดย B-INCOME มีนโยบายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง และกองทุนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน อีกทั้งยังยกเว้นค่าธรรมเนียมและการขายให้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย