"เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2563 สนับสนุนโดย อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)" ในปีนี้จัดขึ้นเป็น ครั้งที่ 43 และได้คัดเลือกหนังหลากหลายประเภท รวม 14 เรื่อง ที่ล้วนแสดงถึงศิลปะ วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น มาให้ชาวไทยได้ชมเพื่อเป็นการศึกษาและแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ภาพยนตร์แต่ละเรื่องยังแสดงถึงความโดดเด่นและความสวยงามด้านภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายในฝันของบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมเข้าถึงคอหนังทุกวัยทุกกลุ่มด้วยบทบรรยายภาษาไทยและภาษาอังกฤษทุกเรื่องทุกรอบ จัดฉายตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเพื่อให้คอหนังต่างจังหวัดได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์คุณภาพจากแดนอาทิตย์อุทัย ทางผู้จัดจึงจัดเทศกาลฯ ขึ้นในอีก 3 ภาค 3 จังหวัด ได้แก่ ภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และ ภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ตจนถึง 8 มีนาคม 2563
เริ่มต้นกันที่ภาพยนตร์เปิดเทศกาล "A Banana? At This Time of Night?" ภาพยนตร์คอมเมดี้ สร้างจากจากเรื่องจริงของ "ยาสุอากิ ชิคาโนะ" วัย 34 ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบจากพันธุกรรม ร่างกายส่วนเดียวที่เขาสามารถขยับได้คือคอกับมือเท่านั้น แม้ว่าจะต้องอยู่ติดกับรถเข็น แต่เขาก็เลือกที่จะทิ้งโรงพยาบาลแล้วเลือกที่จะเอาชนะชีวิตด้วยอิสรภาพ เขาจ้างอาสาสมัครแต่ว่าก็มักเรียกร้องเอาแต่ใจจากทุกคนที่ดูแลเขา โดยเฉพาะกับ "ทานากะ" นักศึกษาแพทย์ ที่มักถูกชิคาโนะก่อกวนและชอบเรียกให้ไปซื้อกล้วยกลางดึกบ่อยครั้ง วันหนึ่งเขาตกหลุมรักแรกพบกับ "มิซากิ" อาสาสมัครคนใหม่โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอคือแฟนของทานากะ มิซากิรู้สึกรำคาญชิคาโนะ แต่ก็ค่อยๆเริ่มที่จะเรียนรู้ว่าเขาเป็นคนซื่อตรงกับตัวเองและปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม การพบกับชายคนนี้จึงเริ่มทำให้ชีวิตทุกคนเปลี่ยนไป
ภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่อง "Angel Sign" ผลงานกำกับของ "ซึคาสะ โฮโจ" ผู้สร้างมังงะ "City Hunter" และ "CAT'S EYE" ภาพยนตร์ที่เกิดจากการตัดต่อภาพยนตร์สั้นหลายเรื่องออกมาเป็นภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องเดียว เรื่องราวในภาพยนตร์จะดำเนินไปโดยไม่มีเสียงพูดจะมีเพียงวีดีโอและเสียงเพลง โดยภายในภาพยนตร์เรื่องนี้มีผลงานของผู้กำกับไทย "อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร" ร่วมอยู่ด้วย
"Dance with Me" ภาพยนตร์มิวสิคัลคอมเมดี้เรื่องราวของ "ชิซูกะ" พนักงานในบริษัทการค้าขนาดใหญ่ของโตเกียวที่แอบชอบเจ้านายของเธอ สุดสัปดาห์หนึ่งเธอพาหลานสาวไปเที่ยวงานเทศกาล โดยได้พบนักสะกดจิตในงาน หลานสาวของเธอได้ลองสะกดจิตตัวเองเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการแสดงละครเพลงในโรงเรียนที่กำลังจะมาถึง แต่ปรากฏว่ากลับเป็นชิซึกะที่ถูกสะกดจิตและเธอเริ่มร้องเพลงและเต้นรำอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่เธอได้ยินเสียงเพลงไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน ระหว่างการประชุม ที่ร้านอาหารหรู หรือแม้แต่เสียงโทรศัพท์มือถือ ชิซูกะต้องออกเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อหานักสะกดจิตคนนั้นให้เจอเพื่อแก้การสะกดจิตนี้ โดยที่เธอร้องเพลงไปเต้นไปตลอดทาง!
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์อีกหลากหลายรสชาติมาให้เลือกชมกันอย่างเต็มอิ่มทั้ง ภาพยนตร์มิวสิคัลดราม่า Angel Sign, ภาพยนตร์ครอบครัวเกี่ยวกับกีฬามวยปล้ำMy Dad is a Heel Wrestler, ภาพยนตร์พีเรียดคอมเมดี้เรื่องราวของขุนนางผู้ทรงอำนาจและซามุไร Samurai Shifters, "I Go Gaga, My Dear" ภาพยนตร์สารคดีชีวิตครอบครัวที่มีแม่ป่วยเป็นโรค อัลไซเมอร์, ภาพยนตร์แอนนิเมชั่น Children of the Sea, ภาพยนตร์ลึกลับ ระทึกขวัญ "Masquerade Hotel" และเรื่องอื่นๆอีกหลากหลายแนว โดยภาพยนตร์ในเทศกาลจะทำให้ผู้ชมจะได้รับความสุขกับทุกเรื่องราวที่ได้เลือกสรรมาอย่างแน่นอน
"เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2563 สนับสนุนโดย อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)" ในครั้งนี้จัดฉายพร้อมบทบรรยายภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทุกเรื่อง ทุกรอบ ระหว่างวันที่ 6-16 กุมภาพันธ์ 2563 ในราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเดินสายออกฉายต่างจังหวัดที่ ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ในราคาเริ่มต้นที่นั่งละ 100 บาท ในระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น, ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2563 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เชียงใหม่ และปิดท้ายที่จังหวัดภูเก็ตระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2563 ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตอิออน รับส่วนลด 20 บาท/1ที่นั่ง และ 50 บาท/โซฟา 1 คู่ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรชมภาพยนตร์ได้ผ่าน Application: SF Cinema และ เว็บไซต์ www.sfcinemacity.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านโซเชียลมีเดีย WeLoveSF หรือ #SFcinema และเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่หน้าโรงภาพยนตร์