47 ปีบนย่างก้าวที่สำคัญของการเคหะแห่งชาติ สานฝันประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีบ้านเป็นของตนเอง

อังคาร ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๔:๕๙
ตลอดระยะเวลา 47 ปี ที่การเคหะแห่งชาติได้มีภารกิจด้านพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วประเทศ โดยจัดทำโครงการต่างๆเพิ่มโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยมาแล้ว 737,151 หน่วย พร้อมขับเคลื่อนโครงการสำคัญตอบสนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีการก่อสร้างมาพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด ตลอดจนจัดทำดัชนีการอยู่อาศัยของชุมชน เพื่อติดตามและประเมินผลการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมโดยรวมในระดับชุมชนและระดับครัวเรือนของผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ

โดยในปีที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติมีผลการดำเนินงานที่ดีมาก เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของงานก่อสร้าง แผนงานยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยโครงการอาคารเช่า ทำไปแล้ว 11,903 หน่วย แผนเสริมสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย คืออาคารเช่าซื้อ ดำเนินการไป 12,666 หน่วย แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยข้าราชการ ทำไป 3,988 หน่วย ขณะที่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 ก็เริ่มไปในทิศทางที่ดี คาดว่าพอถึงสิ้นปีงบประมาณจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกโครงการ เนื่องจากปัจจุบันการเคหะแห่งชาติมีแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งเป้าให้ปี 2563 เป็นปีแห่งการพัฒนาคุณภาพและนวัตกรรม ทั้งด้านการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การใช้นวัตกรรมเข้าไปปรับปรุงคุณภาพการก่อสร้างให้มีความรวดเร็วและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน

สำหรับเป้าหมายในปี 2563 การดำเนินงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติเดินตามกรอบแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานต่างๆ ของรัฐได้เป็นอย่างดี โดยมีผลงานเด่นหลายโครงการที่สามารถตอบโจทย์ของรัฐบาลและขับเคลื่อนต่อเนื่องในปี 2563 โครงการที่เป็นไฮไลท์เป็นโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม) ระยะที่ 2 - 4 รวมทั้งสิ้น 6,212 หน่วย ในปีนี้จะเริ่มดำเนินการในระยะที่ 2 จำนวน 1,247 หน่วย ซึ่งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.) ให้ความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาก่อนดำเนินการรื้อถอนอาคารแฟลตเดิม แฟลตที่ 18 - 22 ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะเสร็จ จากนั้นจะเริ่มระยะที่ 3-4 ต่อไป

นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้จัดสร้างโครงการอาคารเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เช่าที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานและมีสภาพแวดล้อมที่ดี โดยในปี 2560 - 2562 คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบจัดสร้างโครงการอาคารเช่าแล้ว 11,903 หน่วย ขณะนี้บางโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และบางโครงการอยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้าง ขณะเดียวกันการเคหะแห่งชาติยังได้จัดโปรโมชั่น "เช่าทั่วไทย" บ้านเช่าราคาพิเศษให้กับประชาชน เริ่มต้นเพียง 999 บาท ซึ่งเป็น 1 ใน "ของขวัญปีใหม่ พม. สำหรับประชาชนปี 2563" โดยเปิดจองผ่านระบบออนไลน์ http://999.nha.co.th ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม - 30 มิถุนายน 2563 มีโครงการเข้าร่วม 10,000 หน่วย ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้วเกือบ 16,000 ราย

นอกจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว การเคหะแห่งชาติยังได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 เห็นชอบในหลักการให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการดังกล่าว วงเงิน 5,207 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินในตลาดปกติได้ และไม่มีประวัติทางการเงินเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารการให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยปีงบประมาณ 2563 สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้การเคหะแห่งชาติ จำนวน 346 ล้านบาท และคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อโครงการสินเชื่อฯ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อลดน้อยลง อีกทั้งปัญหาส่วนใหญ่คือผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแต่มีรายได้น้อยมักจะกู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ดังนั้น การเคหะแห่งชาติจึงพยายามพัฒนานวัตกรรมที่ทำให้การสร้างบ้านมีราคาถูกลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ เป็นที่มาของโครงการบ้านราคาประหยัดมาตรฐานสูง (Smart Home) ที่การเคหะแห่งชาตินำนวัตกรรมการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมาจัดสร้างบ้านที่มีคุณภาพดีเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในสังคมยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรมการก่อสร้างแบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จ หรือระบบ Precast มาใช้ เพื่อย่นระยะเวลาการก่อสร้างให้เร็วขึ้น ช่วยลดปัญหาด้านแรงงานไม่เพียงพอ และสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ออกแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียวในลักษณะ Universal Design อาศัยอยู่ร่วมกันได้ทุกช่วงวัย ขนาดเนื้อที่ 20 ตารางวา มี 3 รูปแบบ ได้แก่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22, 28 และ 36 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ระหว่าง 350,000 - 550,000 บาท โดยจัดสร้างบ้านตัวอย่างที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวโครงการภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาดูบ้านตัวอย่างและลงทะเบียน สำรวจความต้องการเพื่อพิจารณาพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างในอนาคต

บ้านนวัตกรรมหรือ Smart Home สามารถตอบโจทย์ผู้มีรายได้น้อยที่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง คาดว่าโครงการนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ที่สำคัญยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาให้สินเชื่อจะทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของตนเองได้รวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ บ้านนวัตกรรมที่ออกแบบในลักษณะ Universal Design เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ยังสามารถรองรับสังคมผู้สูงวัยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ทางการเคหะแห่งชาติจึงได้ทำ โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 4 มุมเมือง (กรุงเทพฯและปริมณฑล) ได้พิจารณาพื้นที่เป้าหมายไว้แล้วสำหรับจัดสร้างที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย

นวัตกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างที่อยู่อาศัยให้มีความรวดเร็ว มีคุณภาพ ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้นทุนถูกลง และที่สำคัญเหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย เพื่อสานฝันให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สามารถมีบ้านเป็นของตนเองได้ในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ