"หมู่เกาะพีพี" ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ที่เป็นจุดหมายปลายทาง หรือ (Destination) ของใครต่อใครหลายคน ที่อยากแวะมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต หมู่เกาะพีพี ห่างจากจังหวัดกระบี่ ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย และยังเคยติดอันดับ 1 ใน 10 เกาะที่สวยที่สุดในโลก ด้วยสภาพแวดล้อมที่ยังเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์และยังคงความงดงามในแบบเฉพาะตัวที่เป็นเวิ้งหรืออ่าวโค้งทอดยาวออกไป โดดเด่นไปด้วยหาดทรายสวยงามขาวละเอียดตัดกับน้ำทะเลใสสีคราม ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการดำน้ำดูปะการังที่สำคัญแห่งหนึ่งของท้องทะเลไทย ซึ่งจะเห็นได้จากภาพของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต่างแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะพีพีที่ดีที่สุดอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายนของทุกปี ซึ่งมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก ไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกระดับชั้น
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจและให้บริการร้านอาหารจานด่วน ภายใต้แบรนด์ "เบอร์เกอร์คิง" กล่าวว่า ที่ผ่านมาเบอร์เกอร์คิงได้เปิดสาขาใหม่ "เกาะพีพี" ภายใต้แนวคิด "เบอร์เกอร์หลักร้อย วิวหลักล้าน" ด้วยความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งของร้านซึ่งที่อยู่ติดกับชาดหาดบริเวณท่าเรืออ่าวไทร ทำให้ร้านเบอร์เกอร์คิงแหงนี้เป็นสาขาเดียวและสาขาเดียวของร้านเบอร์เกอร์คิงที่มีวิวทิวทัศน์สวยที่สุดในประเทศไทยของร้านเบอร์เกอร์คิง ประกอบกับวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันถูกนำมาย่างปนเปลวไฟ ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของเบอร์เกอร์คิง ทำให้ได้เนื้อย่างที่มีกลิ่นหอมและยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำ
ทั้งนี้ เบอร์เกอร์คิง สาขาเกาะพีพี ตั้งอยู่บริเวณท่าเรืออ่าวต้นไทร จังหวัดกระบี่ ถูกตกแต่งตามสไตล์มาตรฐานสแตนดาร์ดของเบอร์เกอร์คิงทั่วโลก เน้นโทนสีน้าตาลที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ บนพื้นที่ 210 ตารางเมตร รองรับลูกค้าได้ถึง 49 ที่นั่ง โดยมีเมนูเด็ดโดนใจอย่าง วอปเปอร์ และเมนูเบอร์เกอร์ต่างๆ รวมถึงเมนูเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นอีกมากมาย ส่วนเมนูข้าวเริ่มต้นเพียง 89 บาท เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 - 03.00 น อย่างไรก็ดี การที่เบอร์เกอร์คิงมุ่งเน้นขยายสาขาในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ นั้น เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่ต้องการสร้างงานและสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงรองรับกับภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ควบคู่กับการรองรับกลุ่มลูกค้าเบอร์เกอร์คิงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความคุ้นเคยกับแบรนด์เบอร์เกอร์คิงอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งนี้ สาขาดังกล่าวยังมีส่วนร่วมในการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก โดยร่วมกับโรงเรียนพระราชทานบ้านเกาะพีพี จัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องโทษของขยะพลาสติก เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติและการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนดังกล่าว พร้อมกันนี้ ยังได้แจกถุงผ้ารักษ์โลกให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อให้เด็กๆ นำไปใช้ทดแทนการใช้ถุงพลาสติก โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ยังได้ให้เด็กๆ ร่วมจินตนาการและใส่ไอเดียต่างๆ ผ่านการวาดภาพหรือเขียนข้อความลงบนถุงผ้าที่ได้รับแจก เพื่อสื่อสารถึงการรณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติก ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Save The World Say No To Plastic หรือ รักษ์โลก ร่วมใจลดการใช้พลาสติก ที่ต้องการมีส่วนช่วยในการลด ละ เลิก การใช้ถุงพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single use)
จากปัญหาปริมาณขยะพลาสติก เบอร์เกอร์คิงได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชุมชุนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ร่วมรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 ในโครงการ "Save The World Say No To Plastic" ด้วยการติดป้ายประชาสัมพันธ์ภายในร้านเบอร์เกอร์คิงทุกสาขา เพื่อขอความร่วมมือจากลูกค้าในการลดใช้ถุงพลาสติก ผ่านข้อความ "รักษ์โลก ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก" พร้อมทั้งได้ปรับเปลี่ยนภาชนะบรรจุและใส่อาหารมาเป็นBiodegradable Plastic หรือที่เรียกว่าพลาสติกที่ย่อยสลายได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการปรับเปลี่ยนภาชนะทั้งหมดภายในร้านเบอร์เกอร์คิงให้เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ภายในปี 2564 อาทิ จานใส่อาหาร, กล่องใส่ข้าว, แก้วกาแฟ, ช้อน, ส้อม, มีด, ถ้วยซอส, ถุงพลาสติก หรือแม่แต่ภาชนะที่ใส่หลอด เป็นต้น