ซีพีเอฟใช้นโยบายสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ควบคู่กับนโยบายการใช้ยาต้านจุลชีพด้วยความรับผิดชอบ โดยหลักแห่งมนุษยธรรมและสวัสดิภาพสัตว์ เมื่อสัตว์เจ็บป่วยจะได้รับการรักษาตามอาการของโรคและได้รับการปกป้องจากโรคภัยต่างๆ เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่เคร่งครัดทั้งกิจการในประเทศไทยและต่างประเทศ
น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้ ให้เกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ทั้งฟาร์มไก่เนื้อและฟาร์มสุกร เพื่อให้มีความเข้าใจการจัดการที่ดีด้านสวัสดิภาพสัตว์ ครอบคลุมทั้งเรื่องระบบการเลี้ยง การขนส่ง การจับ และการแปรรูป สามารถปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เป็นสากล
การเลี้ยงไก่เนื้อของซีพีเอฟ ที่ได้นำสายพันธุ์ที่พัฒนาตามธรรมชาติจนได้สายพันธุ์ไก่เนื้อที่ให้เนื้อมากเติบโตเร็วมีความแข็งแรง จากนั้นนำมาเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดแบบปรับอากาศให้เย็นสบายด้วยการระเหยของน้ำ (Evaporative Cooling System ใช้อุปกรณ์ให้น้ำและอาหารแบบอัตโนมัติควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ โดยเลี้ยงแบบปล่อยพื้นหรือที่เรียกว่า cage free เพื่อให้สัตว์อยู่อย่างอิสระสามารถแสดงออกถึงพฤติกรรมตามธรรมชาติ
ด้านการเลี้ยงไก่ไข่ Cage free เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยให้แม่ไก่มีอิสระในโรงเรือนระบบปิดปรับอากาศ ทำให้สัตว์มีสุขอนามัยที่ดี อยู่อย่างสบาย ได้รับอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ ตามแนวทาง Bio security Hi-Tech Farming
เช่นเดียวกับ การเลี้ยงสุกร ฟาร์มทั้งหมดเป็นโรงเรือน EVAP และปรับเปลี่ยนโรงเรือนเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์อุ้มท้องจากเดิมที่เป็นแบบยืนซอง มาเป็นระบบการเลี้ยงแบบคอกขังรวม เพื่อให้สัตว์ได้อยู่สุขสบายในสภาพแวดล้อมที่ดี
น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าวย้ำว่า การให้สัตว์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สุขสบาย ภายใต้การป้องกันโรคที่ดี และได้รับอาหารที่มีโภชนาการเหมาะสมตามวัย ทำให้สัตว์สุขภาพดี แข็งแรง ไม่เครียด ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะเร่งเติบโต นั่นคือความปลอดภัยอาหารและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ซีพีเอฟ ที่ส่งมอบให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ