คลังยืนยันกู้เงินชดเชยขาดดุลงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสามารถกระทำได้

พุธ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๐๘:๒๙
ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังยืนยันการกู้เงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณเป็นขั้นตอนปกติ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ย้ำอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เรื่องการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการทำสัญญากู้ยืมเงิน (Term Loan) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ครั้งที่ 1 เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่มีการขยายระยะเวลาเงินกู้ออกไป ภายหลังจากวันสิ้นปีงบประมาณ สำหรับการเบิกจ่ายกันเหลื่อมปี โดยการทำสัญญากู้ยืมเงิน (Term Loan) จากธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย วงเงินกู้รวม 20,000 ล้านบาท อายุเงินกู้ 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ครบกำหนดชำระต้นเงินกู้ทั้งจำนวนในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ (BIBOR) ระยะ 6 เดือน ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นฐานในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลบด้วยส่วนต่าง (Spread) เฉลี่ยร้อยละ 0.15019 (ศูนย์จุดหนึ่งห้าศูนย์หนึ่งเก้า) ต่อปี

ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้จัดตั้งงบประมาณปี 63 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการพัฒนาของประเทศ เงินส่วนใหญ่ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างประจำของข้าราชการ ไม่มีเงินเหลือไปลงทุนพัฒนาประเทศ ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกผันผวน ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะเปราะบาง การดำเนินนโยบายของรัฐบาลจึงจำเป็นต้องสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ (Counter-Cyclical Fiscal Policy) มุ่งลงทุนเพื่อการพัฒนา สร้างรายได้ และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเพิ่มศักยภาพของภาคเอกชนในการลงทุนและการจ้างงาน

"การกู้เงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสามารถกระทำได้ เป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาได้กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณมาหลายปี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ผ่านมามีสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศต่างแสดงความประสงค์ให้รัฐบาลกู้เงินเป็นจำนวนมาก เพราะรัฐบาลมีความมั่นคงสูง ประกอบกับในช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และระบบธนาคารก็มีสภาพคล่องสูง จึงเป็นจังหวะที่เหมาะในการกู้เงินจากสถาบันการเงินของรัฐ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ เพราะถึงแม้จะจัดทำงบประมาณขาดดุลและต้องมีการกู้เงินบ้าง แต่กระทรวงการคลังสามารถดูแลให้อยู่ในกรอบวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด และในอนาคตจะพยายามจัดทำงบประมาณแบบสมดุลโดยเร็วที่สุด" นายชาญกฤชกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version