ธปท. และ ธนาคารกลางกัมพูชา ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการ และเข้าถึงผู้ใช้บริการที่เป็นประชาชน ธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ โดยวางบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่เชื่อมโยงกัน (interoperable infrastructure) มีมาตรฐานสากล และสามารถต่อยอดบริการที่หลากหลายในอนาคต เช่น การพัฒนา interoperable QR payment เพื่อให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวก ลดต้นทุน สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน และครอบคลุมทั้งบริการภายในประเทศและบริการระหว่างประเทศ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. และฯพณฯ เจีย จันโต ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชา ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินและการชำระเงิน ตลอดจนส่งเสริมการชำระเงินภายในประเทศและการเชื่อมโยงบริการทางการเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่น
ความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งดังกล่าว ได้มีการต่อยอดพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า "การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างกัมพูชากับไทยจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ mobile banking application ของตนในการใช้จ่ายผ่าน QR code ที่ร้านค้าในอีกประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระหว่างประเทศ และช่วยส่งเสริมการชำระเงินแบบดิจิทัลของประชาชนทั้งสองประเทศ นวัตกรรมนี้สามารถต่อยอดขยายไปสู่บริการโอนเงินระหว่างประเทศอาเซียนในระยะต่อไป"
ฯพณฯ เจีย จันโต ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชา กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันสำคัญที่นวัตกรรมด้านบริการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างกัมพูชาและไทยจะเกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นสำหรับการชำระเงินรายย่อยและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นจากการลดต้นทุนการชำระเงินและความเสี่ยงจากการใช้เงินสด"
ทั้งสองธนาคารกลางเชื่อมั่นว่า การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ และจะเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการเข้าถึงบริการการชำระเงินของประชาชนอีกด้วย