นักวิทยาศาสตร์จีนผนึกกำลังร่วมต่อสู้กับโควิด-19

พุธ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๓:๔๔
หนังสือพิมพ์ Science & Technology Daily รายงานว่า:

เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน (MOST) ได้เปิดโครงการ "รับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ซึ่งเป็น 4 กลุ่มโครงการที่ประกอบด้วยโครงการฉุกเฉิน 20 โครงการนับจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ MOST ยังดำเนิน 2 โครงการใหญ่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกอบด้วย "การพัฒนายาสำคัญชนิดใหม่" และ "การป้องกันและรักษาโรคติดต่อรุนแรง" รวมถึงผลักดันแผนวิจัยและพัฒนาระด้บชาติที่จำเป็น โดยช่วงที่ผ่านมา ผลสำเร็จสำคัญที่ได้จากโครงการเหล่านี้ถูกนำไปใช้ป้องกันและควบคุมโรคระบาดในพื้นที่แนวหน้า

ในด้านของการคัดเลือกยานั้น เจ้าหน้าที่แนวหน้าจากทีมวิจัยต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันบนพื้นฐานงานวิจัยที่มีอยู่ และใช้ความพยายามในการคัดเลือกยาตามระบบจำนวนมาก ทั้งยาที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดอยู่แล้ว หรือที่อยู่ในขั้นทดลองทางคลินิก ผลที่ตามมาคือ พวกเขาสามารถค้นพบยาต้านไวรัสโคโรนาที่คาดว่ามีประสิทธิภาพ เช่น Chloroquine Phosphate, Remdesivir และ Favipiravir นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ตามมา นักวิจัยยังเร่งทดสอบทางคลินิก ซึ่งผลทดลองแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่เด่นชัดมากขึ้น

"ทีมป้องกันและควบคุมโรค" ได้อาศัยการวิจัยและพัฒนา รวมถึงประสบการณ์ที่สั่งสมมาในแวดวงเซลล์บำบัด ยาแผนจีน และวิธีรักษาด้วยพลาสมาในจีน เพื่อทยอยจัดการทดลองทางคลินิกในการประเมินประสิทธิภาพของแนวทางบำบัดรักษา 3 แนวทางข้างต้น ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่สำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นวิกฤต

เพื่อจัดหาโซลูชันที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการรับมือกับการแพร่ระบาดด้วยสเต็มเซลล์บำบัด ทางผู้บริหารของ MOST ได้เดินทางไปสถาบัน Innovation Institute of Stem Cell and Regenerative Medicine ในสังกัดสถาบัน Chinese Academy of Science เพื่อยืนยันความก้าวหน้านี้ โดยได้พัฒนายาใหม่ชื่อว่า CAStem ที่ใช้รักษาโควิด-19 ซึ่งก็ได้ปรากฏให้เห็นความคืบหน้าสำคัญบ้างแล้วในการทดลองรักษาโรคหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) โดยทีมวิจัยได้ยื่นขออนุมัติจากสำนักงานผลิตภัณฑ์ยาแห่งชาติจีนอย่างเร่งด่วน และกำลังทำงานร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันยา CAStem ได้รับการอนุมัติแล้วจาก Ethics Committee และกำลังอยู่ในขั้นตอนการสังเกตการณ์และประเมินผลทางคลินิก

ส่วนโครงการฉุกเฉินที่มีชื่อว่า "การศึกษาทางคลินิกว่าด้วยการป้องกันและรักษาโควิด-19 ด้วยยาจีนและตะวันตกแบบผสมผสาน" นั้น ก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ด้วยการสนับสนุนจาก MOST จางป๋อลี่ หัวหน้าโครงการและอธิการบดีมหาวิทยาลัยยาแผนจีนเทียนจิน กล่าวว่า "การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีประสิทธิภาพในเชิงบวก" โดยมีรายงานว่าผู้ป่วยจำนวน 23 รายหายดีและออกจากโรงพยาบาลยาแผนจีนและตะวันตกในมณฑลหูเป่ย และโรงพยาบาลยาแผนจีนในเมืองอู่ฮั่นได้แล้ว

ในด้านการรักษาด้วยพลาสมานั้น China National Biotech Group ได้รวบรวมพลาสมาจากผู้ป่วยในระยะพักฟื้น รวมถึงเตรียมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลาสมาภูมิคุ้มกันพิเศษและโกลบูลินภูมิคุ้มกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พลาสมาที่สร้างภูมิคุ้มกันพิเศษนี้ ผ่านขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยทางชีววิทยาในตัวอย่างเลือดอย่างเข้มงวด รวมถึงการทดลองทำลายไวรัสและต่อต้านไวรัส และอื่น ๆ โดยถูกนำไปใช้รักษาทางคลินิกโดยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และถูกนำไปใช้รักษาทางคลินิกกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงแล้ว

ส่วนในด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนนั้น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) ประสบความสำเร็จในการแยกสายพันธุ์ไวรัสโรคโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มกราคม ซึ่งได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ โดยวัคซีนชนิดใหม่ที่ใช้กับโควิด-19 ได้เริ่มทดลองกับสัตว์แล้ว ซึ่งมอบความหวังให้กับทุกคน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ