กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
นายพงศ์พินิต เดชะคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการของธนาคารประจำไตรมาส 1/2549 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 2,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ธนาคารได้ตั้งสำรองฯ 750 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการเร่งขจัด NPL ที่ธนาคารกำหนดไว้ ธนาคารจึงมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2549 จำนวน 1,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรกของปี 2549 เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของการขยายสินเชื่อมีการเติบโตสุทธิประมาณ 8,000 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิปรับตัวสูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 29% และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวสูงขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ดังนั้น จึงมั่นใจว่าปี 2549 นี้ จะทำได้ตามเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อเพิ่มสุทธิ 36,000 ล้านบาท และขยายรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในส่วนของค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 16% นอกจากนี้ คาดว่าปีนี้จะสามารถจำหน่าย NPA ออกไปได้อีกประมาณ 7,000 ล้านบาท หลังจาก 3 ปีที่ผ่านมาสามารถจำหน่าย NPA ได้ปีละกว่า 7,000 ล้านบาท โดยธนาคารสามารถทำกำไรจากการขาย NPA มาได้โดยตลอด สำหรับ NPL ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 8.6% นั้น ตั้งเป้าลดลงเหลือ 7.5% ณ สิ้นปีนี้ ในส่วนของการขยายรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยนั้น ธนาคารจะอาศัยผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ทั้งของธนาคารเอง และการใช้ประโยชน์จากการ Cross-sell ผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มบริษัทในเครือเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่ม Corporate, SMEs และลูกค้ารายย่อย
ปัจจุบันธนาคารกรุงศรีอยุธยามีสินทรัพย์รวม 654,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8% จากสิ้นปีก่อน มีสินเชื่อรวม 450,300 ล้านบาทซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 2% และมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศจำนวน 499 แห่ง โดยมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 60 สาขาในปีนี้