เนื่องด้วยศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชาและลาว ซึ่งเป็น 6 ประเทศใน 14อันดับแรกของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูงของโลก[1] มาสเตอร์การ์ดจึงได้จัดตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมมาสเตอร์การ์ดในประเทศเหล่านี้สามารถเข้าถึงโอกาสภายใต้ความหลากหลายในภูมิภาคได้ดีขึ้น ภายใต้การนำของคุณซาฟดาร์จะทำให้มาสเตอร์การ์ดเติบโตด้านบริการกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและผู้เล่นฟินเทครายใหม่ในตลาดด้วยระบบดิจิทัล รวมทั้งสร้างและสานต่อความร่วมมือกับภาครัฐในประเทศนั้นๆ การปรับโครงสร้างและเน้นความเป็นผู้นำในประเทศเหล่านี้เป็นการเสริมความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เศรษฐกิจและประชากรกำลังเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็ว
มาสเตอร์การ์ดได้มุ่งเน้นการให้บริการด้านการชำระเงินที่ดีที่สุดแก่กลุ่มธุรกิจ ลูกค้า พันธมิตรด้านดิจิทัล และโครงการสมาร์ทซิตี้ในประเทศไทย ความรู้และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการชำระเงินของคุณซาฟดาร์จะเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้การร่วมงานกับพันธมิตร การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ และการนำแบบแผนการดำเนินงานที่ดีที่สุดจากทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) เกิดประสิทธิผลสูงสุดในการเร่งการเติบโตของการชำระเงินบนระบบดิจิทัลในประเทศไทย
"ทุกวันนี้ การทำงานบนระบบดิจิทัลทั่วโลกต้องการทั้งความรวดเร็วและความสร้างสรรค์ในการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ บริษัทฟินเทค และผู้ให้บริการอื่นๆ ในตลาด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ด้วยประสบการณ์การทำงานของคุณซาฟดาร์ที่เคยร่วมงานกับหลายฝ่ายในภูมิภาคในการนำกระบวนการทางเทคโนโลยีการจ่ายเงินแบบดิจิทัลมาปรับใช้ ทำให้คุณซาฟดาร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการผลักดันมาสเตอร์การ์ดให้ก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและทั่วถึงในกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจกำลังสดใสเหล่านี้" คุณอารี ซาร์เกอร์ ประธานร่วม ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าว
ในโอกาสนี้ คุณซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า "ตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนการเติบโตที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพอย่างประเทศไทยที่ซึ่งผู้คนใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ[2] และมีการปรับตัวของการชำระเงินแบบดิจิทัลมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีอัตราการเติบโตอย่างน่าประทับใจมากถึง83 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างปี 2559-2561[3] มาสเตอร์การ์ดมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตเคียงข้างการพัฒนาสู่ยุคดิจิทัลและการชำระเงินดิจิทัลในประเทศเหล่านี้ นับเป็นโอกาสในการตอกย้ำเป้าหมายขององค์กรในการขยายการบริการและผลักดันนโยบายการก้าวสู่ยุคดิจิทัลในภูมิภาค"
คุณซาฟดาร์มีประสบการณ์ด้านการธนาคารและการชำระเงินมากกว่ายี่สิบปี นอกจากนี้ยังเคยทำงานที่ ABN AMRO ซิตี้แบงก์ และโอราเคิล ในอเมริกาเหนือ เอเชีย และตะวันออกกลาง ตลอดสิบปีที่ผ่านมาคุณซาฟดาร์ได้รับหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงของมาสเตอร์การ์ดหลายตำแหน่ง ทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนรับตำแหน่งใหม่นี้คุณซาฟดาร์ดำรงตำแหน่งประธานฝ่าย ประจำประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและบรูไนของมาสเตอร์การ์ด